อาการหลังเสริมอกเป็นยังไง จะมีอาการข้างเคียงยังไงบ้าง น่ากลัวรึเปล่า? บทความนี้มีคำตอบ! บทความนี้เหมาะสำหรับคนที่กำลังจะตัดสินใจจะเสริมหน้าอก แล้วอยากรู้ว่าหลังเสริมหน้าอกไปจะลำบากมากแค่ไหน ดูแลตัวเองยากไหม? และยังเหมาะกับคนที่เสริมหน้าอกมา แล้วพบกับอาการต่าง ๆ ขึ้น ถ้าอยากรู้ว่าอาการหลังเสริมอก แบบไหนปกติ-ไม่ปกติ เราลองไปอ่านทำความเข้าใจกันได้เลยครับ – หมอวี ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง แพทย์ประจำ Amara Clinic
- เวียนหัว คลื่นไส้ อยากอาเจียน (อาการเมายาสลบ)
- เจ็บระบมบริเวณหน้าอก มีอาการปวดบริเวณรอบ ๆ
- หน้าอกบวมช้ำ เป็นรอยช้ำสีม่วงอมแดง (จะค่อย ๆ หายไป)
- นอนแล้วอึดอัดหายใจไม่ออก แน่นอก (หากเสริมหน้าอกขนาดใหญ่)
- ในช่วงแรก หน้าอกอาจจะไวต่อความรู้สึกมากขึ้น (ขึ้นอยู่กับเคส)
- หัวนมชา หรือรู้สึกน้อยลง (ขึ้นอยู่กับเคส)
- มีรอยแผลหลังเสริมหน้าอก หรือเป็นคีลอยด์ (ขึ้นอยู่กับเคส)
- รู้สึกว่าหน้าอกอยู่สูงกว่าปกติในช่วงแรก
- แขนทั้งสองข้างเหมือนไม่มีแรง ยกไม่ขึ้น
อาการหลังเสริมอกที่ควรแจ้งแพทย์
- หน้าอกแสบร้อน บวมแดงมากผิดปกติ
- มีหนอง หรือของเหลว ไหลออกมากจากหน้าอก
- มีผื่น ตุ่มแปลก ๆ หรือก้อนแข็ง ขึ้นที่บริเวณเต้านม
- หายใจลำบาก หายใจไม่ออก แน่นหน้าอกมาก
- หน้าอกขึ้นเป็นริ้วอย่างชัดเจน ผิวเป็นคลื่นไม่สวย
- หน้าอกแข็งมาก ไม่เป็นธรรมชาติ อย่างที่ตกลงไว้

อาการหลังเสริมอก เกิดจากอะไร?
อาการหลังเสริมอกที่พบได้นั้น ย่อมมีสาเหตุและที่มาครับ เนื่องจากการผ่าตัดเสริมหน้าอก จะมีการเปิดแผล และอาจจะผ่าตัดลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อหน้าอก (สำหรับเคสที่เสริมหน้าอกแบบใต้กล้ามเนื้อ หรือระหว่างกล้ามเนื้อ) จึงทำให้มีการบาดเจ็บเกิดขึ้นได้ เทคนิคของแพทย์ก็มีส่วนสำคัญต่ออาการหลังเสริมอกด้วยนะครับ ซึ่งจริง ๆ แล้ว อาการหลังเสริมหน้าอกจะเป็นอย่างไร มีผลข้างเคียงหลังเสริมหน้าอกมากน้อยขนาดไหน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ 1-2 ปัจจัย หรือปัจจัยทางฝั่งแพทย์เพียงอย่างเดียวนะครับ มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมาก ๆ ตัวอย่าง เช่น
1. อาการหลังเสริมอกที่เกิดจากแพทย์
สำหรับอาการหลังเสริมอกที่เกิดจากตัวแพทย์เองนั้น จะมีเรื่องความเชี่ยวชาญ เทคนิคเฉพาะตัว และเครื่องมือที่เลือกใช้ในการเสริมหน้าอกเข้ามาเกี่ยวข้องครับ หากเสริมหน้าอกกับแพทย์ที่ไม่ได้มีประสบการณ์เสริมอกมาเยอะ, ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านการเสริมหน้าอกโดยตรง, ไม่มีทักษะในการออกแบบหน้าอกที่เหมาะสม หรือมีการประเมินการรักษาอย่างเหมาะสมจริง ๆ ก็อาจจะทำให้แผนการเสริมหน้าอกผิดที่ผิดทาง และทำให้มีอาการหลังเสริมอกเยอะขึ้นได้ครับ
ตัวอย่าง เช่น
- เสริมอกกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ > หน้าอกพัง ไม่สวย ต้องเสียเงินแก้ใหม่
- แพทย์ไม่มีประสบการณ์ > เส้นประสาทถูกทำลายมาก / หน้าอกไม่เท่ากัน
- ใช้เครื่องมือผ่าตัดแบบเก่า > เสียเลือดเยอะ เจ็บมาก พักฟื้นนาน
- วางซิลิโคนผิดตำแหน่ง > ผิวเป็นคลื่น เห็นขอบชัด หน้าอกห่าง ไม่ธรรมชาติ
- เปิดแผลขนาดใหญ่ > เสี่ยงแผลหายช้า เห็นได้ชัด และเป็นคีลอยด์
- เทคนิคในการเสริมหน้าอก > ถ้าใช้กรวย แผลจะเล็ก และบาดเจ็บน้อย
- เทคนิคในการเปิดแผล > การใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า จะได้แผลสวย เสียเลือดน้อย
- เทคนิคในการปิดแผล > ใช้กาวปิดแผล จะทำให้แผลสวยกว่าการเย็บ

2. อาการหลังเสริมอกที่เกิดจากคลินิก
ส่วนอาการหลังเสริมอกที่เกิดจากคลินิก หมอจะเน้นไปพวกมาตรฐานของคลินิกเสริมหน้าอก พวกคุณภาพของเครื่องมือที่นำมาใช้, การลงทุนในด้านต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยของคนไข้, มาตรฐานของห้องผ่าตัด มีระบบครบครันหรือไม่, มีเครื่องมือสำหรับกรณีฉุกเฉินไหม, มีการฆ่าเชื้อเครื่องมือที่เหมาะสมหรือเปล่า, มีการดูแลคนไข้หลังเสริมหน้าอกอย่างไรบ้าง และที่สำคัญไม่แพ้ปัจจัยอื่น ๆ เลย ก็คือเรื่องของการดมยาสลบอย่างปลอดภัย โดยการใช้วิสัญญีแพทย์วิชาชีพจริง ๆ ครับ (คลินิกเสริมหน้าอกบางแห่ง ลักไก่ก็มีครับ ไม่ได้มาตรฐาน แต่โฆษณาอวดอ้างไว้เยอะมาก ๆ หลาย ๆ คนไปทำแล้วพัง ทั้งแผลปริ ติดเชื้อ และอื่น ๆ อีกมากมาย จนสุดท้ายต้องหาคลินิกใหม่แก้ก็มีนะครับ)
- ห้องผ่าตัดไม่ผ่านมาตรฐาน > เสี่ยงติดเชื้อสูง และไม่ปลอดภัย
- เครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน > อาจทำให้มีผลข้างเคียงหลังทำมากขึ้น
- ไม่มีระบบหรือเครื่องมือช่วยชีวิต > อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
- ไม่มีการฆ่าเชื้อเครื่องมือ > เสี่ยงติดเชื่อหลังเสริมหน้าอก แผลเน่า หน้าอกเน่า
- ไม่ได้ดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ > ใช้พยาบาลหรือแพทย์แทน = อันตรายมาก
- ไม่มีเครื่องมือ After Care ที่มีคุณภาพ หรือไม่มีคนดูแล > คนไข้ต้องหาที่อื่นดูแลต่อด้วยตัวเอง ทำให้ร่างกายฟื้นฟูตัวได้ช้าลง เข้าที่ช้า เจ็บนาน เสียกำลังใจ เพราะไม่มีคนคอยดูแล


3. อาการหลังเสริมอกที่เกิดจากคนไข้
สุดท้ายคืออาการหลังเสริมอกที่เกิดจากตัวคนไข้เอง หลัก ๆ ก็จะเป็นการดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอกของคนไข้แต่ละคนนะครับ คนที่ทำตามที่แพทย์ให้คำแนะนำไป ตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการเสริมอก ไปจนหลังการเสริมอก ย่อมทำให้มีผลข้างเคียง หรืออาการต่าง ๆ น้อยกว่าคนที่ไม่ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอยู่แล้วครับ ใครที่อยากได้หน้าอกสวย ๆ ต้องดูแลตัวเองดี ๆ ตามที่หมอแนะนำอย่างเคร่งครัดเลยนะครับ การฝ่าฝืนคำแนะนำเหล่านี้ ส่งผลเสียมากกว่าที่คิดนะครับ เช่น เจ็บนาน ระบมมาก, บวมช้ำนาน, หน้าอกเข้าที่ช้า, ใช้เวลาพักฟื้นนาน, แผลติดเชื้อ, ซิลิโคนลอย, แผลเป็นคีลอยด์, หน้าอกแข็งมาก, หน้าอกผิดรูป หรือมีการคันรุนแรงกว่าปกติ เป็นต้นครับ

การดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอก
- ทำความสะอาดแผลทุกวัน > ช่วยให้แผลแห้งไว และป้องกันแผลติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการใช้แรงยกของหนัก > กล้ามเนื้อหน้าอกอาจบาดเจ็บมากขึ้น
- งดบีบจับหน้าอกแรง เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ > ป้องกันหน้าอกผิดรูป
- พันผ้ารัดหน้าอกไว้ตามแพทย์สั่ง > ป้องกันหน้าอกเปลี่ยนรูป หรือซิลิโคนลอย
- สวมซัพพอร์ตบรา ไม่ใช่สปอร์ตบรา > ป้องกันซิลิโคนลอย และการเคลื่อนตัวของซิลิโคนได้
- นอนหนุนหมอนสูง เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และลดอาการบวมช้ำ
- นอนหงายหน้าได้ นอนตะแคงได้ แต่ห้ามนอนคว่ำเด็ดขาด
- นวดหน้าอกตามที่แพทย์แนะนำ (ขึ้นอยู่กับซิลิโคนที่เลือกใช้ บางเคสไม่ต้องนวด)
- งดอาหารหมักดอง, อาหารทะเล และอาหารสำเร็จรูป เพราะส่งผลให้แผลบวมมาก
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ งดวิตามินบางชนิด เพราะส่งผลให้แผลหายช้า
- งดอาหารไม่สะอาด อาหารไม่สุก เพราะมีเชื้อโรคเยอะ อาจทำให้แผลติดเชื้อได้
- ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ และทานยาที่แพทย์ให้ไปอย่างเคร่งครัด
- เข้ามาพบแพทย์ เพื่อติดตามอาการหลังเสริมหน้าอกอย่างต่อเนื่อง
- เข้ามารับบริการ After Care ที่คลินิกตามนัด (ฉายแสง ทำแผล ตัดไหม ฯลฯ)

อาการหลังเสริมอก จะอยู่นานแค่ไหน?
อาการหลังเสริมอกจะอยู่กับเราไปนานแค่ไหน ตัวหมอเองก็ไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจนครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยทางร่างกายของคนไข้แต่ละคนด้วย บางคนเป็นคนช้ำยาก บางคนช้ำง่าย หรือบางคนขี้เจ็บ บางคนร่างกายทนทานมาก เป็นต้นครับ ซึ่งอาการหลังเสริมอกแต่ละอาการ ระยะเวลาที่เกิดขึ้นก็ไม่เหมือนกันด้วยครับ แต่หมอจะยกตัวอย่างอาการและระยะเวลาในการเกิดขึ้น ที่คนส่วนใหญ่มักจะเจอแทนนะครับ
- อาการหลังเสริมอก 1 สัปดาห์ : รู้สึกเจ็บหน้าอก, แน่นหน้าอก, ขยับตัวยาก, แขนไม่มีแรง, เจ็บแผล หรือบวมช้ำ
- อาการหลังเสริมอก 1 เดือน : บวมน้อยลง, ไม่ค่อยเจ็บแล้ว, เริ่มออกแรงแขนได้ และแผลแห้ง เริ่มหายแล้ว
- อาการหลังเสริมอก 3 เดือน : หน้าอกเริ่มเข้าที่ชัดแล้ว, ออกกำลังกายได้ และไม่เจ็บ ไม่บวม ไม่ช้ำ
สรุป
อาการหลังเสริมอกมีทั้งที่น่ากังวล และไม่น่ากังวลนะครับ ใครที่อ่านบทความนี้จบแล้ว คงจะพอแยกออกได้บ้างว่าอาการไหนรุนแรงมากแค่ไหน หากไม่สบายใจ หมอแนะนำให้ติดต่อคลินิกเสริมหน้าอกที่ทำมา และนัดเข้าไปพบกับแพทย์เลยครับ ในบางครั้ง อาการเล็ก ๆ ที่เราคิดว่าไม่เป็นอะไร เมื่อปล่อยไว้นาน ๆ กลับกลายเป็นความอันตรายได้ครับ และสำหรับใครที่มองหาคลินิกอยู่ว่า ควรไป
เสริมหน้าอกที่ไหนดี หมอแนะนำ Amara Clinic หรือลองเข้ามาปรึกษาหมอก่อนได้เลยครับ (ฟรี)
เหตุผลที่ควรเสริมหน้าอกที่ Amara Clinic
- เสริมหน้าอก โดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง
- ห้องผ่าตัดมาตรฐานสากล (ระดับโรงพยาบาล)
- ดมยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ แบบ 1:1
- มีห้องพักฟื้นระดับ VVIP และพยาบาลส่วนตัว
- หน้าอกสวย สัมผัสนุ่ม มีความเป็นธรรมชาติสูง
- มีอาการหลังเสริมอก และผลข้างเคียงน้อยมาก
- แพทย์มีเทคนิคเสริมหน้าอกเฉพาะตัว
- เจ็บน้อย ช้ำน้อย พักฟื้นไว ทำวันนี้พรุ่งนี้เที่ยวได้
- ซิลิโคนแท้ คุณภาพสูง จากอเมริกา
ปรึกษาแพทย์ที่ Amara Clinic
ลงทะเบียนปรึกษา คลิกที่นี่
ติดต่อสาขารัชโยธิน : 062-946-2397
ติดต่อสาขาราชพฤกษ์ : 062-556-6623
ติดต่อทาง LINE : @amaraclinic
กดที่ลิ้งค์นี้ได้เลย >> https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic
ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่ง
นพ. วีรกานต์ สถิตนิรามัย (หมอวี)
แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic Surgery)