การศัลยกรรมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดใหญ่หรือเล็ก หรือแม้แต่การฉีดเติมเต็มใบหน้าเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้เกิดอาการบวมช้ำขึ้นมาได้ วันนี้หมอจึงจะมาแนะนำเครื่องดื่มและอาหารลดบวมช้ำหลังผ่าตัดให้เลือกทานกัน พร้อมกับแนะนำทริคดี ๆ ในการลดอาการบวมหลังผ่าตัดที่ควรทำร่วมกับการทานอาหารลดบวมด้วยครับ – หมอวี ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางที่ Amara Clinic
อย่างที่เราเคยเห็น ๆ กันมาบ้างแล้ว ว่าคนที่ไปศัลยกรรมความงามอยู่เกาหลีจะมีการทานอาหารลดบวมกันเยอะมาก เพราะว่าที่เกาหลีนับว่าเป็นประเทศที่การศัลยกรรมโดดเด่นสุด ๆ ดังนั้น เค้าเลยมีการผลิตพวกเครื่องดื่ม และอาหารลดบวมออกมาขายกันเยอะมาก เช่น ซุปสาหร่าย น้ำฟักทอง ซุปฟักทอง ฯลฯ แต่คนที่อยู่ไทยไม่ต้องเสียดายไปนะครับ เนื่องจากอาหารลดบวมที่หมอจะมาแนะนำในวันนี้หาได้ไม่ยากเลย
ระหว่างที่ทำการผ่าตัดศัลยกรรมไม่ว่าจะเป็นการเสริมหน้าอก การผ่าตัดหนังหน้าท้อง การดูดไขมัน การเติมไขมัน หรือหัตถการอื่น ๆ เนื้อเยื่อและใต้ผิวจะเกิดการบาดเจ็บขึ้น เนื่องจากการผ่าตัดมันไปกระทบกับเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กในบริเวณนั้น ทำให้เลือดออกปนกับน้ำเหลือง ยิ่งบาดเจ็บมาก เลือดก็ออกมาขึ้น ความบวมช้ำก็จะยิ่งทวีคูณมากเข้าไปอีก ย้อนกลับไปที่เนื้อเยื่อที่ได้รับการบาดเจ็บ มันจะทำหน้าที่คล้าย ๆ กับฟองน้ำ พอเกิดการอักเสบขึ้น มันก็จะพองตัวบวมขึ้นมานั่นเอง โดยอาการบวมมักจะมีเยอะมาก ๆ ในช่วงวันที่ 2-5 หลังจากนั้นอาการจะเริ่มคงที่ และค่อย ๆ ลดบวมลงตามลำดับ
หากถามว่าแล้วทำไมอาการบวมถึงค่อย ๆ ยุบตัวลงล่ะ? มันเกิดจากอะไร? คำตอบคือ… เมื่อเกิดการบาดเจ็บขึ้น ร่างการก็จะมีกลไกการฟื้นฟูตัวเองอยู่ ทั้งการเสริมสร้างเซลล์เนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ เลือดไหลหดกลับเข้าไปในเส้นเลือด เส้นเลือดสมานตัวดี มีการขับน้ำออกจากร่างกาย หรือมีการกินอาหารลดบวมต่าง ๆ ตรงนี้ก็จะช่วยให้อาการบวมดีขึ้น แต่ถ้าใครกินอาหารแสลง หรืออาหารที่มีส่วนทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้นล่ะก็ เตรียมตัวบวมหนักและหายช้ากว่าเดิมได้เลยครับ

ระยะของอาการบวม
อาการบวมหลังดูดไขมัน หรืออาการบวมหลังศัลยกรรมของแต่ละเคสจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับหัตถการที่ทำ (ยกตัวอย่าง เช่น การผ่าตัดหนังหน้าท้องจะนับเป็นการผ่าตัดใหญ่ หรือการฉีดไขมันนับว่าเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก เป็นต้น), สภาพร่างกายของคนไข้ และระดับความรุนแรงของแผลที่เกิดขึ้นโดยแพทย์ (น้ำหนักในการลงมีดผ่าตัดและเทคนิคของแพทย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน แม้จะทำหัตถการเดียวกัน แต่ถ้าทำคนละแพทย์ ก็สามารถมีระดับของอาการบวมช้ำที่แตกต่างกันได้) ก่อนที่จะไปดูอาหารลดบวม เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับระยะของอาการบวมกันก่อนเลย โดยเราสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้
- ระยะบวมอักเสบของแผล เริ่มเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ผ่าตัดเสร็จทันที โดยจะอยู่ในช่วง 1-3 วันแรก ที่แผลยังไม่สมานตัวดี เลือดในบางจุดยังไม่หยุดไหล และเนื้อเยื่อยังมีความบอบช้ำอยู่มาก ๆ (แผลสด) หลังจากนั้น เลือดก็จะค่อย ๆ อยู่ไหล ตามด้วยร่างกายมีการดูดซึมเลือดและน้ำเหลืองกลับไป ทำให้อาการบวมค่อย ๆ ดีขึ้น
- ระยะการสร้างเซลล์ใหม่ หรือระยะที่มีการฟื้นฟูตัวเอง แผลจะเริ่มสมานตัวดีแล้ว โดยระยะนี้จะเริ่มตั้งแต่ช่วง 4 วันแรกไปจนถึง 1 เดือน ถึงอาการบวมจะลดน้อยลงแล้ว แต่อาจจะยังมีอาการเจ็บที่ใต้ผิวได้บ้าง รวมถึงอาการบวมแดงอาจยังคงอยู่ แนะนำให้ทานอาหารลดบวมและหมั่นทำ After Care หลังผ่าตัด อาการบวมแดงก็จะลดลงอีกได้
- ระยะการปรับตัว เมื่อสัดส่วนเข้าที่ดีแล้ว ทำมาประมาณ 3 เดือนเป็นต้นไปแล้ว แน่นอนว่าแผลจะเริ่มหายสนิทแล้ว แต่ถ้าเนื้อเยื่อหรือร่างกายของบางคนปรับตัวไม่ได้ หรือเป็นคนที่เกิดคีลอยด์ได้ง่าย อาจจะทำให้มีแผลคีลอยด์ปรากฏขึ้นได้ โดยระยะการปรับตัวนี้อาจกินเวลานานได้ถึง 1-2 ปี

แนะนำอาหารลดบวมหลังผ่าตัดศัลยกรรม
ถึงเวลาแนะนำอาหารลดบวมหลังผ่าตัดศัลยกรรมกันแล้วนะครับ ในประเทศไทยและในโลกนี้มีอาหารลดบวมมากมายให้เลือกทานกัน ทั้งผักทั้งผลไม้ ทั้งเครื่องดื่ม และพวกอาหารลดบวมอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งหมอจะแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ทั้งนี้ ไม่ต้องไปตามล่าหามากินทั้งหมดนะครับ เพราะมันมีเยอะมาก ลองเลือกทานอาหารลดบวมตามความชอบ ความต้องการ และตามความสะดวกได้เลย เพียงแต่ว่าขอให้มีการกินเสริมเข้าไปจากการทานยาที่แพทย์สั่ง และการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดที่ทางสถานพยาบาลแนะนำเท่านั้นเองครับ อาการบวมถึงจะหายไวขึ้น สัดส่วนจะได้เข้าที่สวยไว ๆ
ประเภทน้ำ / เครื่องดื่ม
- น้ำเปล่านี่แหละคือสิ่งที่ดีที่สุด เมื่อเรากินน้ำเปล่าเข้าไป น้ำจะเข้าไปไล่และขับโซเดียมในร่างกายออกมา พร้อม ๆ กับการขับของเสียที่ทำให้เกิดการบวมอักเสบออกมาทางปัสสาวะ อาการบวมก็จะลดลงตามลำดับ
- น้ำฟักทองจะอุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ ที่มีสรรพคุณในการลดอาการบวมช้ำ กำจัดเชื้อโรคออกจากร่างกาย และทำให้อาการอักเสบดีขึ้น จึงถือว่าเป็นเครื่องดื่มลดบวมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ เมนูซุปฟักทองหรือโจ๊กฟักทองก็ยังเป็นอาหารยอดนิยมด้วย
- กาแฟก็ช่วยลดอาการบวมช้ำได้ด้วยนะ รวมไปถึงเครื่องดื่มชาต่าง ๆ ด้วย เพราะคาเฟอีนในเครื่องดื่มเหล่านี้ มีส่วนในการทำให้เกิดการขับน้ำและของเสียออกจากร่างกายนั่นเอง
- น้ำมะพร้าวลดบวมได้ดีไม่แพ้กับเครื่องดื่มอื่น ๆ เลย โดยแนะนำให้ดื่มเป็นน้ำมะพร้าวสดจากผลอ่อนมากกว่าผลแก่ เพราะในมะพร้าวผลอ่อนจะมีกรดซาลิไซลิกค่อนข้างมาก ทำให้อาการอักเสบบวมช้ำลดลงไวขึ้น
- น้ำใบบัวบกช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ลดอาการฟกช้ำ และอาการบวมหลังผ่าตัดได้ดีมาก จนถึงขั้นมีผลิตภัณฑ์แคปซูลใบบัวบกออกมาจำหน่ายหลายเจ้าเลยทีเดียว ทั้งนี้ น้ำใบบัวบกค่อนข้างที่จะหาทานได้ยากใช่ไหมครับ ลองเลือกทานเป็นแคปซูลใบบัวบกแทนก็ช่วยลดอาการบวมได้ดีเช่นกัน
ประเภทผัก / ผลไม้
ผักและผลไม้ที่หมออยากจะแนะนำเพื่อให้อาการบวมอักเสบลดลงก็คือ กล้วย, มะเขือเทศ, แตงกวา, อะโวคาโด แตงโม, หน่อไม้ฝรั่ง, กีวี่, แตงโม และผักใบเขียว เนื่องจากผักผลไม้เหล่านี้มักจะอุดมไปด้วยสารที่ช่วยในการขับน้ำออกจากร่างการ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลน้ำในร่างกาย ชะล้างสารพิษ กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต เลยทำให้ส่งผลต่ออาการอักเสบใต้ผิวด้วย ระดับของความอักเสบจึงน้อยลง จากนั้นอาการบวมก็จะหายไป

อาหารประเภทอื่น ๆ
- กรีกโยเกิร์ต คล้าย ๆ กับกล้วยหอม เพราะมีโพแทสเซียมสูง ทำหน้าที่ในการกำจัดโซเดียมและขับน้ำออกจากร่างกายออกไป สามารถทานเดี่ยว ๆ หรือจะจับคู่ทานกับผลไม้หรือถั่วที่ช่วยลดบวมได้เช่นกัน
- ถั่วจะมีโพแทสเซียมและแมกนีเซียมค่อนข้างสูง จึงช่วยลดอาการบวมลงได้ ไม่ว่าจะเป็นถั่วลิสง ถั่วอัลมอนด์ ถั่วดำ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรือแมคคาดาเมียก็ตาม แนะนำให้ทานแบบไม่มีส่วนผสมของเกลือนะครับ ถ้าทานแบบอบเกลืออาจจะบวมอักเสบกว่าเดิมได้
- สาหร่ายทะเล จะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและแคลเซียม จึงทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตไหลเวียนสะเวด ทำให้ร่างกายดูดซึมออกซิเจนได้ตามปกติ และลดอาการบวมได้ดีมาก ใครที่ชอบดูซีรีส์เกาหลีบ่อย ๆ จะเห็นว่าเมนูซุปสาหร่ายนี่เป็นอาหารที่มีการกินกันแทบทุกเรื่องเลยล่ะครับ
อาหารห้ามกิน ถ้าไม่อยากบวมกว่าเดิม!!
อาหารที่หมอจะแจ้งคนไข้ทุกคนหลังศัลยกรรมว่าห้ามกันเลยมีหลายอย่าง ส่วนใหญ่เป็นของอร่อยทั้งนั้นเลยนะครับ ทำให้คนไข้บางคนอดใจไม่ไหว มีการกินอาหารที่หมอห้ามเกิดขึ้น ปัญหาที่ตามมาก็จะมีทั้งอาการบวมเยอะ บวมนาน แผลติดเชื้อ แผลหายช้า และแผลไม่สวย เป็นต้น โดยอาหารที่หมอแนะนำให้หลีกเลี่ยงถ้าไม่อยากบวมหนักกว่าเดิมจะมีพวกของหมักดอง, ปลาร้า, ส้มตำ, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, อาหารแช่แข็ง, น้ำปลา, อาหารที่มีโซเดียมสูง, อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ, อาหารไม่ปรุงสุก, ขนมขบเคี้ยว หรืออาหารรสจัด เป็นต้น
ทริคลดอาการบวมช้ำหลังผ่าตัด
- ป้องกันไม่ให้แผลผ่าตัดโดนน้ำ การผ่าตัดบางชนิดอย่างการดูดไขมันที่มีการใส่สารน้ำเข้าไป เราควรปล่อยให้น้ำที่คั่งค้างอยู่ใต้ผิวไหลระบายออกมาข้างนอก เพื่อให้อาการบวมลดลง แต่เราไม่ควรให้น้ำเข้าไปในแผล เพราะถ้าแผลเปียกหรือโดนน้ำ แผลอาจจะชื้นแฉะ อักเสบมากขึ้น และติดเชื้อได้ (ช่วงแรกแพทย์จึงไม่ค่อยนิยมแนะนำให้คนไข้อาบน้ำกันนั่นเอง)
- นอนยกหัวสูง สำหรับคนที่ศัลยกรรมใบหน้าหรือเสริมหน้าอก และนอนในท่าที่ตำแหน่งที่มีอาการบวมอยู่สูงกว่าระดับหัวใจ เลือดก็จะไหลเวียนได้ดีขึ้น ไม่มีปัญหาเลือดคั่ง และอาการบวมก็จะดีขึ้นด้วย ทั้งนี้ ไม่แนะนำให้นอนตะแคง นอนเอียง หรือนอนคว่ำนะครับ


- ประคบอุ่น ในช่วงวันที่ 4-7 หรือในช่วงที่แผลแห้งและเนื้อเยื่อเริ่มสมานตัวกันดีแล้ว เมื่อเราประคบอุ่นพลังงานความร้อนจะทำให้เส้นเลือดขยายตัวขึ้น และมีการดูดซึมของเหลวต่าง ๆ กลับเข้าไป สลายลิ่มเลือดเก่า เปลี่ยนเลือดใหม่เข้ามาไหลเวียน และฟื้นฟูเซลล์ในบริเวณนั้น
- ไม่หักโหมทำอะไรหนัก ๆ อย่างที่บอกไปว่าการผ่าตัดทำให้เกิดการบาดเจ็บขึ้น ถ้าเราหักโหมยกของ ออกแรง หรือทำอะไรที่ต้องใช้แรง อาจจะทำให้แผลฉีกขาดขึ้นกว่าเดิม อักเสบมากขึ้น และบวมช้ำมาก ๆ ได้
- การรีดน้ำออกจากร่างกาย ยกตัวอย่างเช่นการดูดไขมันที่มีการใส่สารน้ำเข้าไป เพื่อให้แพทย์ดูดไขมันเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นหลังจากดูดไขมันจึงมีอาการบวมเกิดขึ้นสองแบบ 1. คือการบวมเพราะอักเสบ และ 2. คือการบวมจากน้ำที่ใส่เข้าไป เพื่อให้บวมน้อยลงหนึ่งระดับ ทาง Amara Clinic จึงมีการรีดน้ำออกจากแผลให้คนไข้ดูดไขมันทุกเคส
- สวมชุดกระชับหรือผ้ารัด ชุดกระชับจะช่วยให้ผิวและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ภายในร่างกายเกินการกระชับแนบแน่นกันมากขึ้น ทำให้เลือดหยุดไหล และลดอาการบวมช้ำลงได้

สรุป
หวังว่าผู้อ่านจะได้ทราบกันแล้วนะครับว่าอาหารลดบวมหลังศัลยกรรมมันมีอะไรบ้าง นอกจากการทานอาหารที่เหมาะสมแล้ว การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมตามแพทย์สั่ง และการรับบริการ After Care ที่คลินิกก็สำคัญไม่แพ้กัน รวมไปถึงการเลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญจริง มีประสบการณ์สูง และคลินิกที่เหมาะสมด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกศัลยกรรมเพื่อความงามที่ได้มาตรฐาน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและชมรีวิวของ Amara Clinic เพื่อประกอบการตัดสินใจได้เลยครับ
ปรึกษาแพทย์ที่ Amara Clinic
ลงทะเบียนปรึกษา คลิกที่นี่
ติดต่อสาขารัชโยธิน : 062-946-2397
ติดต่อสาขาราชพฤกษ์ : 062-556-6623
ติดต่อทาง LINE : @amaraclinic
กดที่ลิ้งค์นี้ได้เลย >> https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic
ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่ง
นพ. วีรกานต์ สถิตนิรามัย (หมอวี)
แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic Surgery)