ทุเรียน (Durian) ถือเป็นราชาแห่งผลไม้ไทยที่ทุกคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้ว ด้วยสรรพคุณ กลิ่น รสชาติ ทำให้ทุเรียนเป็นผลไม้ที่ถูกปากถูกใจ บางคนถึงขั้นไม่กินไม่ได้ หนึ่งสัปดาห์จะต้องกินไปแล้วสัก 5 วัน แต่รู้หรือไม่ครับว่า ทุเรียนเป็นเมนูต้องห้ามของใครหลาย ๆ คนเช่นกัน มีทั้งคนที่เป็นโรคที่ไม่ควรกินทุเรียน เป็นโรคที่ห้ามกินเลย หรืออยู่ในสภาวะที่ควรระมัดระวังในการกินทุเรียน นั่นก็คือการผ่าตัดนั่นเองครับ
ในวันนี้ หมอวี Amara Clinic จึงจะพาทุกคนมาไขข้อสงสัยกันว่า หลังผ่าตัด กินทุเรียนได้ไหม? ทำไมถึงกินทุเรียนหลังผ่าตัดไม่ได้? แล้วหลังผ่าตัด กี่วันถึงจะกินได้? หรือแม้แต่คำถามว่าหลังผ่าตัด กินผลไม้อะไรได้บ้าง เหมาะกับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ชอบกินผลไม้แต่กำลังจะผ่าตัดมากเลยครับ
คำถามว่าหลังผ่าตัด กินทุเรียนได้ไหม? คำตอบคือไม่ควรกินครับ ที่หมอตอบว่าไม่ควรแทนคำว่าไม่ได้ เพราะปัจจุบันยังไม่ได้มีงานวิจัยรองรับอย่างชัดเจนว่าทุเรียนจะทำให้แผลผ่าตัดแย่ลง แต่เป็นเพราะหลาย ๆ เคสที่มีการผ่าตัด คนไข้มักจะมีแผลที่แห้งช้า หายยาก หรือบางรายก็เป็นแผลหนองหนักกว่าเดิม ซึ่งอาจเกิดจากความร้อนเมื่อทานทุเรียนเข้าไป เพราะในเนื้อทุเรียนจะมีซัลเฟอร์หรือกำมะถันสูง มีฤทธิ์ร้อน และเป็นต้นเหตุของอาการร้อนใน เช่นเดียวกับ ขนุนหรือลำไย ทำให้แผลมีโอกาสหายช้ากว่าปกติ ทั้งนี้ ร่างกายคนเราก็มีการตอบสนองต่อฤทธิ์ของทุเรียนต่างกัน มีความไวต่อสารแต่ละตัวต่างกัน ดังนั้น ผ่าตัด กินทุเรียนได้ไหม? – ควรงดกินทุเรียนหลังผ่าตัดไปก่อนเพื่อความปลอดภัยนะครับ
ทำจมูกมา แผลเล็ก ๆ จากการผ่าตัด กินทุเรียนได้ไหม?
หมอต้องขออธิบายก่อนว่าการผ่าตัดเสริมจมูกนั้น มีการเปิดแผลเล็ก ๆ บริเวณจมูกก็จริง แต่ไม่ได้แปลว่าร่างกายจะได้รับบาดเจ็บแค่บริเวณนั้นอย่างเดียวครับ เวลาเราใส่ซิลิโคนเสริมจมูกเข้าไป ร่างกายจะต้องมีการปรับตัวกับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาด้วย ทำให้ช่วงแรก ๆ หลังเสริมจมูก บริเวณที่เสริมจะมีความบวมหรือช้ำ เพราะร่างกายบาดเจ็บและยังไม่หายดี ดังนั้น ถ้าถามว่าแผลเล็กหลังการผ่าตัด กินทุเรียนได้ไหม ตอบว่าไม่ควรเช่นกันครับ เพราะอย่างที่หมอได้แจ้งไปว่า ร่างกายของเราตอบสนองต่ออาหารต่างกัน โชคไม่ดี อาจจะทำให้กลายเป็นหายช้ากว่าเดิมได้นะครับ
เกร็ดความรู้ : ไม่ได้ผ่าตัด กินทุเรียนได้ไหม? ถ้าเป็นแผลเฉยๆ
คำถามนี้จะคล้ายกับคำถามข้างต้นเลยครับ แม้ว่าจะเป็นแผลเล็กอย่างการเสริมจมูก การเสริมคาง ทำตาสองชั้น หรือแผลใหญ่อย่างการตัดหนังหน้าท้อง หรือเสริมหน้าอก การฟื้นฟูร่างกายของเราก็ยังต่างกันอยู่ดี โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับแผลหายช้า ก็จะยิ่งไม่ควรกินทุเรียนหรือกินอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า ดังนั้น ถ้าไม่มั่นใจว่ากินแล้วแผลจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรจริง ๆ ก็ไม่ควรกินทุกเรียนหลังผ่าตัดหรือเป็นแผลครับ
ผ่าตัดกี่วัน ถึงจะกินทุเรียนได้?
ปกติแล้ว แผลผ่าตัดของคนเรา ถ้าไม่มีเหตุปัจจัยอื่น ๆ ให้แผลหายช้าหรือแผลอักเสบกว่าเดิม ก็จะหายภายใน 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือนขึ้นไป แล้วแต่ความแข็งแรงของร่างกายและการดูแลแผลของเราครับ อย่างการผ่าตัดฟันคุด แม้แผลจะอยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้นตลอดเวลา แต่ถ้าดูแลดี ๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ ให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้อย่างเต็มที่ ก็จะหายแบบกินข้าวได้ตามปกติภายในไม่กี่วันเท่านั้น
ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจถึงความปลอดภัยในการกินทุเรียนหลังผ่าตัด ควรงดอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์หลังผ่าตัดครับ ให้แผลแห้งดีก่อนแล้วค่อยกินยังไม่สาย ดีกว่าตามใจปากไปแล้วได้ผลลัพธ์ที่ไม่คุ้มเสียนะครับ เพราะการผ่าตัดศัลยกรรมบางอย่างมีค่ารักษาหรือแก้ราคาสูงกว่าการเสริมเข้าไปอีก เช่น การเสริมจมูก ที่สามารถมีอาการแทรกซ้อนได้หลายอย่าง ทั้งจมูกทะลุ ตุ่มในรูจมูก จมูกอักเสบ ซึ่งจะต้องอาศัยการดูแลอย่างรอบคอบมาก ๆ หากจมูกเสียหายรุนแรงก็อาจจะต้องถอดซิลิโคนจมูกออกเพื่อทำการรักษา เจ็บตัวสองต่อเพราะการกิน ไม่คุ้มแน่นอนครับ
เกร็ดความรู้ : ผู้ป่วยโรคใดที่ไม่ควรกินทุเรียน ป่วยแต่ไม่ได้ผ่าตัด กินทุเรียนได้ไหม?
-
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะทุเรียนมีแป้งและน้ำตาลสูง เสี่ยงน้ำตาลพุ่งจนช็อก
- ความดันเลือดสูง เพราะทุเรียนทำให้ภายในร้อน น้ำตาลเยอะเสี่ยงต่อความดันเลือด
- เป็นหอบหืด เพราะหลังทานทุเรียนจะหายใจลำบาก เสี่ยงต่ออาการหอบกำเริบ
- เป็นกรดไหลย้อน เหตุผลเดียวกับความดันเลือดสูง ทำให้เป็นกรดไหลย้อนง่าย
- ผู้ป่วยโรคเกาต์ เพราะทุเรียนมีน้ำตาลและไขมันสูง เสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย
- ผู้ป่วยโรคไต เพราะทุเรียนมีโพแทสเซียมและฟอสฟอรัสสูง ทำให้ไตทำงานหนัก
- ผู้ป่วยโรคหัวใจ เพราะทุเรียนมีไขมันสูง เพิ่มไขมันในเลือด อันตรายกับหัวใจ
แล้วหลังผ่าตัด กินผลไม้อะไรได้บ้าง?
สำหรับคนที่ชอบกินผลไม้ แต่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดรักษาโรค การศัลยกรรม ผ่าตัดหนังหน้าท้อง เสริมจมูก หรือเสริมหน้าอก สามารถกินผลไม้ได้หลากหลายชนิดเลยครับ เพียงแต่ต้องเลี่ยงของหมักดอง เช่น มะยมดอง มะม่วงดอง ที่ตอนปกติเราสามารถกินได้ แต่ตอนมีแผลผ่าตัดไม่ควรจะทาน เพราะอาจจะทำให้แผลบวม อักเสบ และหากไม่ระวังเรื่องความสะอาดก็อาจจะเสี่ยงทำให้แผลติดเชื้อได้ด้วย ดังนั้น หลังผ่าตัด กินผลไม้อะไรได้บ้าง ก็ต้องเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วยในการสมานแผล ฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อ เพื่อให้แผลหายเร็ว ๆ ดังนี้ครับ
ผลไม้อะไรช่วยสมานแผล?
- ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี อันมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้แผลหายได้เร็ว การฟื้นตัวดีขึ้น และทำให้ผิวแข็งแรง ป้องกันการติดเชื้อและการอักเสบได้ดี ได้แก่
-
- สับปะรด
- มะนาว
- มะม่วง
- กีวี่
- ส้ม
- เบอร์รี่ต่าง ๆ
- มะขามป้อม
- ฝรั่ง
- ลิ้นจี่
- เงาะ
- ส้มโอ
- ผลไม้ที่มีวิตามินเอสูง เพื่อกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ร่วมกับวิตามินซีก็จะทำให้แผลหายเร็ว เสริมสร้างภูมิคุ้นกัน บำรุงรักษาเซลล์เนื้อเยื่อของอวัยวะต่าง ๆ ได้ดี ได้แก่
-
- มะละกอ
- แคนตาลูป
- ฝรั่งสีชมพู
- เคพกูสเบอร์รี่หรือโทงเทงฝรั่ง
- มะม่วงสุก
- ลูกพลับ
- อะโวคาโด
อาหารต้องห้ามหลังผ่าตัด ที่ไม่ควรกิน งดด่วน!
ในแพทย์แผนปัจจุบันนี้ มีการวิจัยออกมาหลายตัวแล้วว่าอาหารที่ควรกินหรือไม่ควรกินหลังผ่าตัดมีอะไรบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ความสะอาด เพื่อไม่ให้แผลเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย และเน้นการฟื้นฟูร่างกายจากการบาดเจ็บ ซึ่งจะทำให้แผลหายเร็วขึ้นโดยไม่มีอะไรมารบกวนจนทำให้แผลแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้น เราจึงต้องโฟกัสไปที่อาหารต้องห้ามที่ไม่ควรจะกินหลังผ่าตัดครับ ได้แก่
- อาหารที่ไม่ได้ปรุงให้สุกดี : อาจจะทำให้เชื้อโรคในอาหารสามารถเข้าไปถึงแผล ทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย
- อาหารรสจัดจ้าน : ทำให้ความดันเลือดสูง สารอาหารลำเลียงผ่านกระแสเลือดได้ยาก แผลหายช้าแน่นอน
- ของมัน ของทอด : ทำให้กระแสเลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ไขมันเลวนี้เป็นตัวทำลายสารต้านอนุมูลอิสระ และทำให้ผิวมันง่ายมากขึ้น หากใครทำจมูกมา ก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการอักเสบของแผลเสริมจมูกได้ง่าย เป็นอีกหนึ่งคำตอบของคำถามว่าผ่าตัด กินทุเรียนได้ไหม เพราะทุเรียนก็มีไขมันสูงมากเช่นกันครับ
- อาหารหมักดอง : อาหารที่ผ่านการหมักดองมาสามารถสะสมเชื้อโรคในอาหารได้เยอะ และบางอย่างก็ยังมีโซเดียมสูงปรอทแตก ทานบ่อย ๆ โดยเฉพาะหลังผ่าตัด นอกจากจะเสี่ยงแผลอักเสบ หายยากแล้ว ยังเสี่ยงติดเชื้อแบบง่าย ๆ ได้อีกด้วย
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ : กระตุ้นให้เลือดสูบฉีดกว่าปกติ ทำให้เลือดออกง่าย แผลหายช้าเพราะแร่ธาตุน้อยลง และไปชะลอการทำงานของยาต่าง ๆ ที่แพทย์จ่ายให้ ส่งผลให้แผลหายช้าและติดเชื้อง่ายกว่าเดิม
- กาเฟอีน : เรื่องนี้จะต้องวางแผนการผ่าตัดล่วงหน้าไว้ก่อนเลยครับ เพราะหมอห้ามดื่มเครื่องดื่มกาเฟอีนเพราะจะทำให้ร่างกายตื่นจนนอนไม่หลับ ทำให้นอนไม่พอจนแผลหายช้าหายยากเอาได้ เพราะฉะนั้นงดไปก่อน แล้วค่อยกลับมาดื่มตอนที่แผลหายดีแล้วนะครับ
สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับอาหารสำหรับหลังผ่าตัดได้ที่นี่ครับ…แผลผ่าตัดห้ามกินอะไรบ้าง
ติดตามโปรโมชั่นใหม่ ๆ อีกเพียบ! คลิก
โปรโมชั่นทั้งหมดบทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
หลังจากคลายข้อสงสัยกันไปแล้วว่าหลังผ่าตัด กินทุเรียนได้ไหม ก็คงจะทราบกันถึงเหตุผลว่าทำไมเราถึงกินทุเรียนหลังผ่าตัดไม่ได้ หรือไม่ควรกิน นอกเหนือจากทุเรียนแล้วก็ยังมีอาหาร ผักหรือผลไม้ต่าง ๆ ที่มีฤทธิ์คล้าย ๆ กันที่ไม่ควรทาน หนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่กำลังตัดสินใจจะเสริมความงาม อยากเสริมจมูก เสริมหน้าอก หรือผ่าตัด กินทุเรียนได้ไหม หรือกินอย่างอื่นได้ไหม ไม่ว่ายังไงก็ควรจะเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ศึกษาการดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมก่อนตัดสินใจเพื่อให้วางแผนการทำได้เหมาะสมครับ นอกจากนี้ ก็ต้องเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ถูกสุขอนามัย มีความปลอดภัยและแพทย์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้การผ่าตัดหรือการทำศัลยกรรมต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ต้องมาเจ็บตัวฟรี ๆ หรือต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาในภายหลังครับ
ปรึกษาแพทย์ที่ Amara Clinic
ลงทะเบียนปรึกษา คลิกที่นี่
ติดต่อสาขารัชโยธิน : 062-946-2397
ติดต่อสาขาราชพฤกษ์ : 062-556-6623
ติดต่อทาง LINE : @amaraclinic
กดที่ลิ้งค์นี้ได้เลย >> https://line.me/R/ti/p/@amaraclinic
ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่ง
นพ. วีรกานต์ สถิตนิรามัย (หมอวี)
แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic Surgery)
I like this web site very much, Its a very nice office to read and
obtain information.Blog monetyze