ผลข้างเคียงที่ต้องระวัง! ตุ่มในรูจมูก เสริมจมูกมา เสี่ยงจมูกทะลุ

หมอได้ย้ำอยู่เสมอว่า ทุกการผ่าตัดแม้จะเล็กน้อย ย่อมมาพร้อมกับอาการบวมของเนื้อเยื่อรอบ ๆ บริเวณที่ผ่าตัด และยังมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่เป็นผลทางตรงและทางอ้อมของการผ่าตัดด้วย แต่คนไข้ที่กำลังจะเสริมจมูกหรือเสริมจมูกมาแล้ว มีตุ่มในรูจมูก ไม่ต้องเป็นกังวลนะครับ เพราะทุกผลข้างเคียงก็มีแนวทางแก้ไขอยู่ เพียงแต่เราจะต้องทราบเอาไว้ตั้งแต่ก่อนเสริมจมูกเพื่อไม่ให้เกิดความวิตกในภายหลัง และสามารถประเมินอาการที่อาจเป็นอันตรายได้ทันท่วงทีครับ

• ความเสี่ยงจากการผ่าตัด

เป็นความเสี่ยงทั่วไปที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด เหมือนที่หมอได้เกริ่นไปครับ เพราะการทำจมูกนั้นมีหลายแบบ ทั้งเสริมจมูก หรือตัดปีกจมูก ก็สามารถมีอาการปวด ชา มีเลือดห้อหรือเลือดซิบได้ หรืออาจจะแพ้ยาชาหรือยาสลบ สำหรับคนไข้ที่ไม่ทราบว่าตัวเองแพ้หรือไม่เคยใช้ยาชายาสลบมาก่อนก็เป็นไปได้เช่นกันครับ

• อาการบวมช้ำ

เสริมจมูกมาแล้วหน้าบวม มีรอยช้ำม่วง บริเวณใกล้เคียงกับจมูก หน้าแก้ม หรือใต้ดวงตา เป็นผลข้างเคียงที่ปกติและเกิดขึ้นได้กับทุกคนครับ เป็นกลไกการฟื้นฟูร่างกายและรักษาบาดแผลของตัวเราเอง โดยจะบวมช้ำในช่วงแรก ๆ หลังทำราว 2-3 วัน และจะค่อย ๆ ดีขึ้นจนหายไปเอง แต่ถ้าเกิน 1-2 สัปดาห์แล้วยังบวมช้ำเหมือนเดิมหรือมากขึ้น ต้องรีบไปพบแพทย์เลยครับ เพราะอาจเป็นการติดเชื้อมากกว่าบวมปกติ

• มีแผลเป็น

การเสริมจมูกจะมีการกรีดเปิดแผลบริเวณจมูกเพื่อทำการใส่ซิลิโคนเข้าไป และจะมีการเย็บแผล เมื่อแผลสมานกันดีแล้วก็มีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นได้ครับ แต่ส่วนใหญ่ ในกระบวนการรักษา  หากพยายามดูแลตัวเองตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ก็จะช่วยให้แผลเสริมจมูกเหล่านี้หายเร็วและจางลงได้เยอะครับ

• เส้นประสาทถูกทำลาย

จมูกและบริเวณโดยรอบจมูกของใบหน้าเรานั้น มีทั้งเส้นเลือดฝอยและเส้นประสาทรวมกันอยู่มากที่สุดครับ การผ่าตัดเสริมซิลิโคนเข้าไปใต้เนื้อเยื่อของเราจึงอาจจะไปกระทบกับเส้นประสาทใกล้เคียงจนทำให้รู้สึกชาไปพักหนึ่ง และถ้าแพทย์ไม่เชี่ยวชาญมากพอ เส้นประสาทรับความรู้สึกและอื่น ๆ ก็อาจจะถูกทำลายถาวร จมูกชาไปตลอดชีวิตได้เลยครับ

• จมูกเสียหาย เบี้ยว แกนเอียง หรือทะลุ

ผลข้างเคียงนี้มีสาเหตุมาจากทั้งหมอหรือคนไข้ก็ได้ครับ เพราะอาจเกิดจากการวางตำแหน่งซิลิโคนไม่ถูก การรัดแกนที่ไม่พอดี ซิลิโคนที่เลือกมีขนาดที่ไม่เหมาะสมกับพื้นฐานจมูกเดิม การดูแลการนอนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ของคนไข้ที่จะไปกระทบกับตำแหน่งซิลิโคน เป็นต้น ปัญหานี้ควรรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อทำการแก้ไข้หรือรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้ครับ

• แพ้ซิลิโคน

เป็นผลที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนครับ อาการแพ้ซิลิโคนจะมีสิวหรือผดผื่นขึ้นบริเวณรอบ ๆ จมูก มีตุ่มนูนหรืออาการบวมช่วงหัวตา มีอาการคันยิบ ๆ หรือผดขึ้นที่จมูกเลย ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อเอาออกครับ เพราะถ้าปล่อยไว้แล้วเราแพ้ซิลิโคนจมูกจริง ๆ อาจจะเป็นอันตรายจนจมูกพังก็ได้ครับ

• ซิลิโคนลอย

เป็นผลมาจากการที่ซิลิโคนไม่แนบชิดกับกระดูกของจมูกครับ ในบางเคสสามารถเห็นว่าแท่งซิลิโคนลอยเหนือกระดูกจมูกแบบชัดเจน ซิลิโคนลอยจริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นอันตรายมาก แต่อาจจะทำให้เสียความมั่นใจเพราะจมูกมีทรงที่เปลี่ยนไปจากความต้องการเดิม หรือหนักสุดคือซิลิโคนเลื่อนลงมาจนจมูกทะลุครับ หากไม่มั่นใจ ไปพบแพทย์ดีที่สุด

ตุ่มในรูจมูกเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้น ในขั้นตอนการรักษา เบื้องต้นคนไข้จะต้องดูอาการของตนเองก่อนว่ามีตุ่มในรูจมูกหลังเสริมจมูกเพราะสาเหตุใด หรือถ้าไม่แน่ใจ ไม่สบายใจ รีบมาให้ศัลยแพทย์ตรวจอาการก่อน หากมีตุ่มในรูจมูก เสริมจมูกมาแล้วมีตุ่มนูนที่เกิดเพราะกระดูกอ่อนถูกซิลิโคนดันหรือซิลิโคนทิ่มออกมา สามารถตัดกระดูกอ่อนหรือตัดซิลิโคนส่วนที่นูนออกมาทิ้งไปได้เช่นเดียวกับกรณีซิลิโคนที่กำลังจะทะลุ แต่ถ้าซิลิโคนทะลุออกมาแล้ว จะต้องถอดซิลิโคนแล้วทำการรักษาแผลก่อน จึงจะสามารถเสริมจมูกอีกครั้งได้ แต่ถ้ามีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยด่วน เพราะต้องรีบฆ่าเชื้อ ส่วนแผลคีลอยด์สามารถฉีดให้ยุบลงหรือทำหัตถการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ครับ

วิธีป้องกันตุ่มในรูจมูกนั้น ถ้าจะให้ดีที่สุดคือต้องเริ่มตั้งแต่ตอนตัดสินใจเสริมจมูกเลยครับ ที่เสี่ยงที่สุดก็คือการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนที่มีขนาดไม่เหมาะสมกับจมูกของเรา เพราะจมูกของคนเรามีโครงสร้างที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเนื้อจมูกมากน้อย หรือกระดูกแบบไหน ก็จะมีวิธีการเสริมที่แตกต่างกัน หากเลือกซิลิโคนที่ไม่เหมาะกับเรา เช่น เนื้อจมูกน้อย แต่ใช้ซิลิโคนใหญ่หรือปลายหยดน้ำ ก็มีความเสี่ยงสูงที่จมูกจะทะลุได้ง่ายกว่าเคสอื่นครับ ทางที่ดีควรตรวจเช็คร่างกายของตัวเอง และประเมินผลรักษาร่วมกับคุณหมอ บอกประวัติการรักษาของตัวเองอย่างถี่ถ้วน เช่น มีโรคประจำตัวใดบ้าง กำลังตั้งครรภ์หรือเปล่า มีแผนจะดัดฟันหรือไม่ เป็นต้น และที่สำคัญคือ ‘อย่าฝืนทำ’ เพราะหากจมูกพังขึ้นมา จะแก้ได้ยากครับ

          บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย