สวัสดีครับ กลับมาพบกับหมอวีและ Blog สาระน่ารู้กันอีกครั้งนะครับ วันนี้ยังวนเวียนกับเรื่องของเสริมจมูกเช่นเคย เพราะมีคำถามส่งมาจากแอดมินของ Amara Clinic กันแทบจะทุกวัน ซึ่งมีหลายเคสที่อยากปรึกษาหมอเรื่องของภาวะผิดปกติหลังเสริมจมูก โดยหนึ่งในปัญหาหลังเสริมจมูกที่ว่านี้ก็คือ “ซิลิโคนลอย” หรือ “ซิลิโคนลอยตรงหัวตา” เนื่องจากหลังเสริมจมูก ในบางรายอาจพบซิลิโคนไม่รัดแกน ซิลิโคนจมูกขยับได้ หรืออาจเห็นเป็นสันลอยขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดครับ แล้วแบบนี้จะเป็นอันตรายหรือเปล่า หรือจำเป็นต้องแก้จมูกไหม วันนี้หมอจะพาทุกคนไปพบกับคำตอบกันครับ
โดยทั่วไปแล้ว หลังเสริมจมูกทันที ซิลิโคนหรือวัสดุที่ใส่เข้าไปเพื่อเสริมจมูกจะยังไม่เข้าที่ ยังไม่รัดแกนครับ เนื่องจากช่วงนี้ร่างกายกำลังฟื้นตัวและสร้างเนื้อเยื่อต่าง ๆ รวมถึงพังผืด เพื่อมาโอบรัดแกนซิลิโคนที่ใส่เข้าไป โดยในระหว่างนี้ จมูกอาจยังมีอาการบวมได้อยู่ประมาณ 1 เดือน และหลังจากนี้ประมาณ 6-12 เดือน จมูกเราจะค่อย ๆ รัดแกนสวย รวมถึงอาการบวมจะหายเป็นปกติ 100% ด้วยครับ
แต่ทั้งนี้ หมอแนะนำว่าเราควรสังเกตอาการหลังเสริมจมูกอยู่เสมอ หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น อาทิ มีอาการบวม ๆ ยุบ ๆ เดี่ยวเป็นเดี๋ยวหาย, มีน้ำเหลืองและเลือดไหลออกมาร่วมกับความปวดและบวมแดง, ผิวที่ปลายจมูกเริ่มเปลี่ยนสีคล้ำขึ้น ฯลฯ แบบนี้ให้รีบมาพบแพทย์ทันที เพราะจมูกอาจเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ และต้องทำการแก้จมูกครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- หลังเสริมจมูก จมูกรัดแกนกี่เดือน เมื่อไหร่จมูกหายบวม สันจมูกและรูปทรงสวยขึ้น
ปัญหาที่คนไข้มาแก้จมูกบ่อยที่สุด
สำหรับปัญหาหรือผลข้างเคียงที่ทำให้ต้องแก้จมูกในเคสที่หมอพบเจอได้บ่อยมีหลายเรื่องครับ
- ปลายจมูกใส แต่ไม่เจ็บ
- ซิลิโคนเบี้ยวเอียง
- ปลายจมูกใส แดง อักเสบ
- รูจมูกไม่เท่ากัน
- จมูกผิดรูป
- ฉีดสารเหลวหรือร้อยไหมที่จมูก ไม่ได้รูปทรงที่สวย ผิดรูป หรือเกิดการอักเสบ
- ซิลิโคนลอย ซิลิโคนไม่รัดแกน ซิลิโคนลอยตรงหัวตา จนทำให้ซิลิโคนจมูกขยับได้
อาการเหล่านี้คนไข้จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจวิเคราะห์และแก้จมูก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วการแก้จมูกจะใช้วิธีการเปิดแผลแบบเสริมจมูกโอเพ่น มีการนำซิลิโคนจมูกของเก่าออก เลาะพังผืด เลาะสารเหลวหรือเส้นไหมที่ฉีดเข้าไป (กรณีที่ฉีดสารเหลวหรือร้อยไหมเสริมจมูกมาก่อน) และหมอต้องทำการวิเคราะห์ว่าโครงสร้างจมูกเดิมมีปัญหาหรือไม่ เช่น มีฮัมพ์, จมูกสั้น, ฐานจมูกใหญ่ ฯลฯ ถ้าหากมีก็ต้องปรับโครงสร้างกันก่อนที่จะเสริมจมูกใหม่ครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- หลังเสริมจมูก รูจมูกไม่เท่ากัน ต้องแก้ยังไง
- ปลายจมูกใส แต่ไม่เจ็บ ต้องแก้จมูกหรือไม่ อันตรายหรือเปล่า
ซิลิโคนลอย เกิดจากอะไร
ซิลิโคนลอย เกิดจากหลายสาเหตุครับ ทั้งที่เกิดจากตัวคนไข้เอง เช่น การเกิดอุบัติเหตุและได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จนทำให้ซิลิโคนลอย ซิลิโคนจมูกขยับได้ ซิลิโคนเคลื่อนตัว และเกิดจากการผ่าตัดของแพทย์ที่อาจมีความเชี่ยวชาญไม่เพียงพอครับ
ซิลิโคนลอยจากอุบัติเหตุ
หลังเสริมจมูกอาจเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้จนทำให้เกิดการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง คนไข้บางรายที่มาหาหมอเรื่องซิลิโคนลอย เพราะว่าเล่นกับลูกหลานเล็ก ๆ วัยกำลังซน หรือเล่นกับน้องหมาตัวโต ๆ แรงเยอะ ๆ หมอแนะนำเลยว่าใครที่เสริมจมูกมาใหม่ ๆ ควรระมัดระวังเรื่องการเล่นกับเด็ก ๆ หรือสุนัขที่แรงเยอะ เพราะอาจจะกระแทกกับมือที่กวัดแกว่งมาโดนจมูกที่เสริมไปได้ครับ หรือแม้กระทั่งอุบัติเหตุทางรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เคสแบบนี้ก็มีเยอะเหมือนกันครับ ซึ่งการเกิดอุบัติเหตุแบบนี้มักเกิดปัญหาซิลิโคนลอยที่มาพร้อมกับอาการอักเสบจนต้องได้รับการแก้จมูกครับ
ซิลิโคนลอยจากการผ่าตัดเสริมจมูก
การเหลาซิลิโคนที่ไม่พอดีกับโครงสร้างจมูกเดิม, แพทย์อาจไม่ได้ปรับโครงสร้างจมูกก่อนเสริมซิลิโคน อย่างไม่เหลาฮัมพ์ จนทำให้ซิลิโคนไม่แนบกับจมูกจนซิลิโคนลอย, การเปิดช่องว่างเพื่อวางซิลิโคนทำจนแคบเกินไป หรือทำจนกว้างเกินไป ทำให้ซิลิโคนเคลื่อนออกมา จนเป็นสาเหตุให้ซิลิโคนไม่รัดแกน ซิลิโคนจมูกขยับได้, การวางซิลิโคนเหนือเยื่อหุ้มกระดูก รวมไปถึงการปรับโครงสร้างที่ไม่พอดี มากเกินไป ทำให้เนื้อเยื่อหุ้มกระดูกเสียหาย จนส่งผลให้ไม่มีตัวยึดซิลิโคนให้แนบชิดกับจมูก
อาการซิลิโคนลอย
- ซิลิโคนไม่รัดแกน ซิลิโคนจมูกขยับได้ (เอานิ้วกดที่สันจมูก ลองขยับนิ้วไปมาซ้ายและขวา ซิลิโคนขยับตามนิ้ว)
- สังเกตเห็นซิลิโคนลอยตรงหัวตา มีรอยมุมรอยขอบซิลิโคนบริเวณหัวตาชัดเจน
- ซิลิโคนอาจผิดรูป ซิลิโคนเบี้ยวเอียง เห็นเป็นรอยขอบมุมชัดเจน
- เห็นซิลิโคนลอยขึ้นมาเห็นเป็นแท่ง ไม่แนบสนิทกับโครงสร้างจมูกเดิม
- บางรายซิลิโคนลอยจนไหลลงมากดที่ปลายจมูก จนปลายบางใสเห็นซิลิโคน
ซิลิโคนลอย อันตรายไหม ต้องแก้จมูกไหม
ภาวะซิลิโคนลอยหลังเสริมจมูกเป็นเรื่องที่อาจพบได้ จนสังเกตได้ว่าซิลิโคนจมูกขยับได้ไปมา หากมีอาการนี้เพียงอย่างเดียวจะไม่เป็นอันตรายครับ แต่หากเมื่อไหร่ที่มีอาการข้างเคียงอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการเจ็บ ปวด อักเสบ ปลายจมูกบางใส หรือปลายจมูกแดง สันจมูกตึง หรือซิลิโคนเอียงจนผิดรูป หมอแนะนำให้รีบพบแพทย์ครับ เนื่องจากอาจมีอาการของจมูกอักเสบ ติดเชื้อ และเสี่ยงที่จมูกจะทะลุได้
ทั้งนี้ คนไข้บางรายที่มีอาการซิลิโคนลอย ซิลิโคนไม่รัดแกนเพียงอย่างเดียว และไม่ได้มีอาการเสี่ยงติดเชื้อ อาจมีความกังวลใจและอยากแก้จมูกก็สามารถทำได้ครับ ยังไงหมอก็แนะนำให้เข้ามาคุยมาปรึกษาหมอก่อน เพราะหากปล่อยไว้ก็อาจทำให้มีอาการข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้อย่างแน่นอน จะช้าจะเร็วก็ควรต้องแก้จมูกใหม่ครับ
เช็คอาการก่อนซิลิโคนทะลุ
อย่างที่หมอบอกไปข้างต้นนะครับว่า หากมีอาการซิลิโคนลอยอย่างเดียวแต่ไม่มีอาการข้างเคียงที่เสี่ยงอักเสบติดเชื้อ ก็ไม่มีอันตรายอะไร รอก่อนได้ ซึ่งทางที่ดีควรจะเข้ามาให้หมอตรวจดูก่อน แต่หากมีอาการเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจทำให้ซิลิโคนทะลุร่วมด้วย แบบนี้ควรนัดเข้าพบแพทย์ด่วน เดี๋ยวเรามาลองสังเกตุอาการก่อนซิลิโคนทะลุกันครับ เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้เรารู้ว่า “ถึงเวลาที่ต้องแก้จมูกกันแล้ว” ครับ
- ปลายจมูกใส ทั้งที่มีอาการเจ็บ และไม่เจ็บร่วมด้วย
- ปลายจมูกแดง ทั้งที่มีอาการเจ็บ และไม่เจ็บร่วมด้วย
- เกิดรอยบุ๋มที่ปลายจมูก
- ปลายจมูกตกและงุ้มลงมากกว่าเดิม
- จมูกคด เบี้ยว เอียง
- รู้สึกเสียว ๆ ที่ปลายจมูกเวลาเอามือลูบ
- มีรอยตะปุ่มตะป่ำที่สันจมูก
- ปลายจมูกรู้สึกอุ่นและเจ็บ
- ซิลิโคนลอย ซิลิโคนจมูกขยับได้ ซิลิโคนลอยตรงหัวตา สังเกตเห็นขอบมุมของซิลิโคนลอยออกมาเป็นแท่งชัดเจน
แก้จมูก กรณีซิลิโคนลอย
การแก้จมูกกรณีซิลิโคนลอยสามารถทำได้ครับ โดยเป็นการใช้วิธีเปิดแผลแบบโอเพ่นเช่นเดียวกันกับการเสริมจมูกโอเพ่นนั่นเอง สาเหตุที่ต้องใช้เทคนิคโอเพ่นเนื่องจากเป็นการเปิดแผลที่ทำให้แพทย์เห็นโครงสร้างภายในทั้งหมด และสามารถแก้ไขปรับโครงสร้างจมูกได้สะดวกที่สุด เหมือนเวลาเราเปิดกระเป๋านั่นเองครับ ถ้าเราแง้มเปิดซิปออกมาเล็กน้อยเราก็แค่เห็นของไม่กี่ชิ้นที่อยู่ในกระเป๋า แต่ถ้าเราเปิดกระเป๋าออกกว้าง ๆ รูดซิปจนสุดก็จะทำให้เราเห็นของทั้งหมดรวมไปถึงสามารถรื้อค้นสิ่งของได้อย่างง่ายดายครับ
เมื่อคนไข้เข้าพบแพทย์เพื่อทำการวิเคราะห์ปัญหาและหาแนวทางการรักษาอย่างเหมาะสมในแต่ละเคสแล้ว หากไม่มีอาการอักเสบและติดเชื้อร่วมด้วยก็สามารถแก้ไขจมูกด้วยการถอดซิลิโคนและใส่ซิลิโคนใหม่ได้เลย โดยไม่ต้องถอดซิลิโคนแล้วพักเพื่อรอเสริมใหม่ภายหลัง โดยขั้นตอนหลัก ๆ ของการแก้จมูก กรณีซิลิโคนลอย มีดังนี้ครับ
- วางยาสลบร่วมกับยาชาเฉพาะที่ (เนื่องจากต้องเปิดแผลยาวแบบโอเพ่น)
- เมื่อยาสลบออกฤทธิ์ ศัลยแพทย์ตกแต่งทำการเปิดแผลด้วยวิธีเหมือนกับเสริมจมูกโอเพ่น
- นำซิลิโคนหรือวัสดุเสริมจมูกเดิมออก จากนั้นเลาะพังผืดออก ในบางรายที่ฉีดสารเหลวต่าง ๆ หรือร้อยไหมมาก่อน แพทย์จะทำการเลาะออกจนหมด
- ปรับโครงสร้างจมูก (ในกรณีที่คนไข้มีปัญหาเรื่องโครงสร้างจมูก)
- ทำการเสริมจมูกด้วยวัสดุที่ได้วางแผนการรักษาไว้แล้ว โดยแพทย์จะทำการเหลาซิลิโคนให้ครอบแกนจมูกที่พอดี รวมไปถึงทำโพรงช่องใส่ซิลิโคนให้เหมาะสม และอาจใช้วิธีการวางซิลิโคนใต้เยื่อหุ้มกระดูก (แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม)
- เย็บปิดแผลอย่างประณีต
- ใช้เวลาในการผ่าตัดแก้จมูกประมาณ 3 ชั่วโมง (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยาก-ง่ายในแต่ละเคส)
บทความที่เกี่ยวช้อง
- ทั้งเสริมใหม่และแก้จมูก ต้องเลือกคลินิกกันให้ดี ๆ จะได้ไม่เสียใจ! อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เสริมจมูกที่ไหนดี
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
อาการข้างเคียงหลังเสริมจมูกสามารถเกิดขึ้นได้นะครับ อย่างอาการซิลิโคนลอยที่เกิดจากซิลิโคนไม่รัดแกน โดยไม่เป็นอันตรายอะไรซึ่งไม่จำเป็นต้องแก้เดี๋ยวนั้นเลย แต่หากมีอาการอย่างอื่นร่วมด้วยที่อาจส่อแววว่าจมูกกำลังอักเสบและติดเชื้อ กรณีแบบนี้ควรเข้ารับการปรึกษาเพื่อทำการแก้จมูกกันด่วนนะครับ แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีอาการข้างเคียงอันตราย หมอก็แนะนำว่าให้เข้ามาตรวจเช็คและหาเวลาว่างเพื่อเข้ามาแก้จมูกกัน เพราะภาวะซิลิโคนลอยแบบนี้มันจะเคลื่อนตัวได้อิสระทุกทิศทาง วันหนึ่งซิลิโคนอาจเบี้ยวเอียง หรืออาจดันตัวลงมาที่ปลายจมูกจนทำให้จมูกทะลุก็เป็นไปได้ ท้ายที่สุดก็ต้องแก้จมูกกันอยู่ดีครับ
ต่อมาเมื่อต้องแก้จมูก หมออยากจะแนะนำว่าควรเลือกคลินิกแก้จมูกกันให้ดี ๆ โดยคำนึงถึงการศัลกรรมจมูกที่ปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญครับ อาทิ ความเชี่ยวชาญของแพทย์, ความน่าเชื่อถือของคลินิก, มาตรฐานของเครื่องมือและเทคโนโลยีต่าง ๆ, ดูรีวิวเสริมจมูกว่ามีเยอะไหม Feedback ทำแล้วเป็นอย่างไร รวมไปถึงเราต้องศึกษาข้อมูลรายละเอียดของการเสริมจมูกอย่างถี่ถ้วน เพื่อประกอบการตัดสินใจที่จะเสริมจมูกหรือแก้จมูกแบบปลอดภัย ไม่ต้องเสียใจอีกภายหลังครับ
ดังนั้น หากสังเกตอาการต่าง ๆ แล้วรู้สึกว่าซิลิโคนลอย ซิลิโคนลอยตรงหัวตา จนทำให้ซิลิโคนขยับได้ไปมา สามารถนัดวันเพื่อเข้ามาให้หมอตรวจดูกันได้เลยครับ รู้และแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ ย่อมดีและปลอดภัยกว่าแน่นอนครับ
ปรึกษาแพทย์ที่ Amara Clinic
ลงทะเบียนปรึกษา คลิกที่นี่
ติดต่อสาขารัชโยธิน : 062-946-2397
ติดต่อสาขาราชพฤกษ์ : 062-556-6623
ติดต่อทาง LINE : @amarasurgery
กดที่ลิ้งค์นี้ได้เลย >> https://lin.ee/ssQqAGV
ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่ง
นพ. วีรกานต์ สถิตนิรามัย (หมอวี)
แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic Surgery)
Muchas gracias. ?Como puedo iniciar sesion?
Taking anise oil with diazepam might slow down how quickly the body breaks down diazepam [url=https://fastpriligy.top/]where to buy priligy usa[/url] UTI s can be of two types lower tract infection involving the urethra and bladder, and upper tract infection involving the ureters and the kidneys