จมูกพังไม่ไหว! “ถอดซิลิโคนจมูก” วิธีแก้จมูกพังที่หลายคนยังกลัวเจ็บ

การทำศัลยกรรมจมูก ถือเป็นการผ่าตัดเล็กอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมในวงการเสริมความงาม ซึ่งทุกการผ่าตัดนั้นย่อมมีผลข้างเคียงที่พบเจอกันเป็นปกติอยู่แล้วครับ และผลข้างเคียงที่ว่านี้ก็จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลตัวเอง พื้นฐานร่างกาย และการฟื้นฟูตัวเองของคนไข้เองด้วย ดังนั้น การทำศัลยกรรมจมูกจึงไม่มีอะไรการันตีได้ว่าจะออกมาเหมือนที่คาดเอาไว้เป๊ะ ๆ ทำให้หลายเคสต้องกลับมาถอดซิลิโคนจมูกเพื่อทำจมูกใหม่ หรือบางเคสก็ทำจมูกไม่ได้อีกเลย แต่ไม่ใช่ทุกเคสที่จะเสริมจมูกแล้วจมูกพัง จมูกเสีย จนต้องถอดซิลิโคนจมูกออกครับ 

เพราะฉะนั้น หากหลังเสริมจมูกแล้วมีอะไรผิดปกติร้ายแรง ก็ควรจะมาถอดซิลิโคนออกก่อน เพื่อการรักษาอย่างทันท่วงที แต่หลายคนก็อาจจะยังกลัวว่าถอดซิลิโคนจมูก จะเหมือนเดิมไหม? ถอดซิลิโคนจมูก ต้องพักจมูกกี่เดือน เจ็บไหม? วันนี้ หมอวี Amara Clinic จึงจะพามาทำความรู้จักกับการถอดซิลิโคนจมูกออก เพื่อให้ทราบผลข้างเคียงและการดูแลตัวเองก่อนจะไปทำครับ

การถอดซิลิโคนจมูก เป็นการแก้ปัญหาการเสริมจมูกที่ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีจนเสี่ยงทำให้จมูกพัง ซึ่งคำว่าจมูกพังนั้นมีหลายแบบมาก ๆ ครับ ไม่ว่าจะจากการผ่าตัด ความเชี่ยวชาญของแพทย์ ร่างกายของคนไข้ หรือการดูแลตัวเองหลังทำ ล้วนมีผลต่อโอกาสที่จมูกจะเสียหายได้ในอนาคต ดังนั้น ก่อนที่จะทำจมูกจึงต้องศึกษาให้ดีก่อน และประเมินเคสกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด เพื่อให้การเสริมจมูกออกมาดีตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องมีปัญหาจนต้องถอดซิลิโคนจมูกออกทีหลังครับ

• ซิลิโคนเบี้ยวหรือเอียง

สาเหตุนี้อาจมาจากการเสริมจมูกบางเคสที่แพทย์มีความเชี่ยวชาญไม่มากพอ ทำให้จมูกที่ทำออกมาเบี้ยวหรือเอียงจนเห็นได้ชัด ซึ่งอาจจะมาจากการวางซิลิโคนผิดตำแหน่ง ซิลิโคนไม่แน่น จนทำให้อักเสบ หรือฐานจมูกคนไข้เอียงอยู่แล้วแต่ไม่ยอมแจ้งก่อนก็มีครับ หากไม่แน่ใจว่าฐานจมูกตัวเองเป็นยังไง สามารถเข้ามาที่ Amara Clinic ให้หมอวิเคราะห์จมูกก่อนได้นะครับ

• จมูกติดเชื้อ อักเสบ

ในกรณีนี้อาจจะมีจากการผ่าตัดที่ไม่ได้คุณภาพ การดูแลตัวเองที่ไม่เคร่งครัด หรือไปสัมผัสจมูกที่พึ่งเสริมมาบ่อย ๆ จนทำให้แผลติดเชื้อหรืออักเสบขึ้นมา หากเป็นแบบนี้จะต้องรีบถอดซิลิโคนจมูกออกโดยด่วน เพราะถ้าปล่อยไว้อาจจะเสี่ยงจมูกเน่าหรือทะลุได้ และเคสจมูกทะลุขึ้นชื่อว่าร้ายแรงสุด ๆ มาถอดซิลิโคนจมูกออกเอาตอนนั้น ผลข้างเคียงเยอะกว่าเดิมอีกครับ

• ซิลิโคนผิดขนาด

ต้นเหตุของเรื่องนี้เริ่มตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่ได้ยัดซิลิโคนเข้ามาในจมูกของเราเลยครับ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน ปกติแล้วจะต้องแนะนำทรงจมูกที่คนไข้สามารถทำได้อย่างละเอียดก่อน เพราะเนื้อและฐานจมูกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าแพทย์ไม่เชี่ยวชาญมากพอ หรือแนะนำตามความเป็นจริงไปแล้ว คนไข้รั้นจะทำทรงจมูกที่ไม่เหมาะกับตัวเองต่อ ก็จะทำให้มีปัญหาซิลิโคนที่เล็กหรือใหญ่เกินไปตามมา ยิ่งถ้าใหญ่เกินไปก็จะทำให้เสี่ยงจมูกทะลุ อักเสบ หรือจมูกบางได้ครับ

• สันจมูกตึง

เคสนี้จะมาจากการที่สันจมูกของเราสูงอยู่แล้ว แต่พอใส่ซิลิโคนจมูกเข้าไปอีกโดยไม่ได้ตะไบฮัมพ์หรือสันจมูกที่โด่งกว่าบริเวณอื่นออก นึกภาพเวลาเราใส่เลกกิ้งที่ตัวเล็กกว่าเรามาก ๆ แม้ว่าผ้าจะยืดได้ แต่ถ้าเราตัวใหญ่กว่าขนาดของมันมากเกินไป ก็จะทำให้ผ้ายืดจนบางเห็นเนื้อข้างใน เช่นเดียวกันกับสันจมูกครับ หากเลือกขนาดไม่เหมาะก็จะทำให้สันตึง เพราะผิวไม่สามารถขยายไปได้มากกว่านี้แล้ว นอกจากนี้ ถ้ามีฮัมพ์แล้วไม่ได้ตะไบออก แต่ก็ยังใส่ซิลิโคนเข้าไปอีกก็อาจจะทำให้ซิลิโคนลอยเพราะซิลิโคนไม่แนบเรียบไปกับสันจมูกได้ครับ

• จมูกทะลุหรือเสี่ยงทะลุ

เป็นสาเหตุที่หมอพูดในหลาย ๆ ข้อมากครับ ไม่ว่าต้นทางของการเสี่ยงจมูกทะลุจะเป็นเพราะอะไรก็แล้วแต่ หากมาถึงขั้นที่ซิลิโคนจะทะลุออกมาแล้วล่ะก็ จะต้องถอดซิลิโคนจมูกออกอย่างเดียวเท่านั้นครับ เพราะการรักษาจมูกหลังจากที่ทะลุไปเรียบร้อยแล้วนั้นยากกว่ามาก ๆ แถมอาจจะทิ้งรอยแผลที่เห็นชัดไว้ได้ด้วย

• ผิวเริ่มบางเพราะอายุมาก

ร่างกายของเรามีเวลาเสื่อมสภาพอยู่แล้วครับ เพราะฉะนั้นสาเหตุนี้จึงไม่สามารถเลี่ยงได้ แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับอายุซิลิโคนนะครับ การที่เราอายุเยอะจนผิวบางหรือหย่อนคล้อยลงมาก ๆ เป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้การมองเห็นซิลิโคนชัดเจนกว่าตอนที่ผิวเรายังหนาและเต่งตึง ดังนั้น แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ถ้ายังไม่ถึงขนาดเห็นเป็นแท่งชัดเจนขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องมาถอดออกก็ได้ครับ

• ไม่ชอบทรงจมูกที่เสริมมา

หากไปเสริมจมูกมาแล้วไม่พอใจกับผลลัพธ์ก็อาจจะมาถอดซิลิโคนจมูกออกเพื่อทำใหม่ก็ได้ครับ ในกรณีนี้อาจจะสามารถแก้จมูกแทนการถอดซิลิโคนจมูกออกได้นะครับ ก่อนจะทำจมูกใหม่ ลองปรึกษาศัลยแพทย์ดูก่อน เพราะการถอดซิลิโคนออกไปเลยจะต้องพักฟื้นด้วย หากไม่จำเป็นต้องถอด จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวหลายรอบครับ

การถอดซิลิโคนจมูก หลังถอดออกไปแล้ว มีทั้งเคสที่กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้และไม่ได้ครับ เพราะแต่ละเคสมีสาเหตุที่แตกต่างกัน หากคนไข้เสริมจมูกโดยไม่มีการตะไบกระดูกจมูก แก้ไขโครงสร้างของจมูกเดิม หรือนำเนื้อเยื่อหรือกระดูกอ่อนของตัวเองมาเสริมส่วนใดส่วนหนึ่งร่วมกับซิลิโคน หลังถอดซิลิโคนจมูกออกก็จะกลับมาเป็นจมูกเดิมของเราครับ แต่ถ้าคนไข้เสริมจมูกโดยที่มีขั้นตอนการทำร่วมกับการเสริมซิลิโคนตามที่หมอไล่มา จมูกของคนไข้ก็จะเปลี่ยนไปหลังถอดซิลิโคนออกไม่มากก็น้อยครับ

ผลข้างเคียงอื่น ๆ ของการถอดซิลิโคนจมูก

แม้การเสริมจมูกแล้วต้องการถอดซิลิโคนจมูกออก ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผลข้างเคียงที่ต้องกังวลหลังถอดซิลิโคนจมูกไม่ได้มีแค่ทรงจมูกไม่เหมือนเดิมเท่านั้นนะครับ แต่ยังมีผลข้างเคียงอื่นที่สัมพันธ์กับอาการของคนไข้ก่อนจะมาเอาซิลิโคนจมูกออก ดังนี้ครับ

• จมูกผิดรูป

ผลข้างเคียงนี้ไม่เหมือนผลข้างต้นที่ได้กล่าวไปนะครับ แต่จมูกผิดรูป เช่น จมูกเบี้ยว รูจมูกไม่เท่ากัน หรือจมูกมีแผลคีลอยด์ เกิดจากการที่คนไข้ไปถอดซิลิโคนจมูกออกบ่อย ๆ การถอดออกในแต่ละครั้ง จะทำให้ร่างกายสร้างพังผืดขึ้นมาเพื่อซ่อมแซ่มส่วนที่บาดเจ็บของร่างกาย หมายความว่าถ้าทำบ่อย ๆ หรือแม้แค่ครั้งเดียว ก็มีโอกาสเกิดพังผืดที่ดึงรั้งเนื้อจมูกจนดูบิดเบี้ยวหรือผิวตึงจนผิดรูปจากเดิมได้

• จมูกบุ๋มหรือเป็นรู

กรณีนี้มักเกิดในคนไข้เคสจมูกทะลุครับ พอจมูกเนื้อบางมาก ซึ่งจะมีลักษณะปลายจมูกใสหรือแดง แต่ไม่เจ็บ เป็นสัญญาของซิลิโคนทะลุ เมื่อทะลุออกมาแล้ว ก็จะทำให้ปลายจมูกเป็นหลุมลงไปจากการที่เนื้อเยื่อของเราเสียหาย แต่ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการตัดแต่งผิวจมูก เสริมกระดูกอ่อนหรือซิลิโคนที่ไม่ใหญ่มาก เติมไขมัน หรือใช้เนื้อเยื่อเทียม ซึ่งโดยเฉลี่ยก็จะมีราคาค่อนข้างสูงครับ

• ปลายจมูกแข็งหนา

ในบางเคส จะมีการนำกระดูกอ่อนหรือใช้วิธีการอื่น ๆ เพื่อเติมปลายจมูกไม่ให้เสี่ยงซิลิโคนทะลุ ดังนั้น เวลาถอดซิลิโคนจมูกออกก็อาจจะไม่ได้นำชิ้นส่วนนั้นออกด้วย ทำให้จมูกของคนไข้กรณีนี้ดูหนา ดูแข็ง เป็นก้อน แต่ถ้าหากไม่ได้เติมปลาย ก็อาจจะมีสาเหตุมาจากการสร้างพังผืดของร่างกายคล้ายกับข้อที่แล้วก็ได้ครับ

หลังการถอดซิลิโคนจมูก คนไข้จะต้องดูแลตัวเองให้มากพอ ๆ กับหลังการผ่าตัดเสริมจมูกเลยครับ โดยเบื้องต้นให้ยึดหลักการทานอาหารเพื่อรักษาบาดแผล และดูแลแผลผ่าตัดไม่ให้อับชื้น เพื่อให้จมูกได้รักษาตัวเองอย่างเต็มที่โดยไม่มีอะไรมาขัดขวาง ซึ่งจะมีข้อปฏิบัติในการดูแลตัวเองหลังถอดซิลิโคนจมูกโดยละเอียด ดังนี้

• • ทานยาและดูแลตัวเองตามคำแนะนำที่ศัลยแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเคสที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อมาก่อน
  • ใช้สำลีชุบน้ำเกลือทำความสะอาดแผลเบา ๆ เท่านั้น
  • นอนโดยใช้หมอนสูง เพื่อไม่ให้เกิดการกดทับแผลผ่าตัดจนอักเสบหรือแผลเปิด
  • ห้ามไม่ให้แผลโดนน้ำอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังทำ เพื่อไม่ให้แผลเน่าหรือติดเชื้อ
  • ประคบเย็นใน 2-3 วันแรกเพื่อให้แผลหายบวมเร็ว แล้วจึงเปลี่ยนเป็นประคบอุ่นเพื่อลดอาการฟกช้ำ
  • งดกิจกรรมหนักหรือออกกำลังกายอย่างน้อย 1 เดือนหลังถอดซิลิโคนจมูก

การถอดซิลิโคนจมูกจะต้องพักจมูกอย่างน้อย 3-6 เดือนถึงจะเริ่มทำจมูกใหม่ได้ เพราะการพักฟื้นหลังถอดซิลิโคนจมูกจะมีระยะเวลาที่แตกต่างกันตามอาการ ในเคสที่มาถอดซิลิโคนจมูกเพราะจมูกติดเชื้อหรืออักเสบแบบรุนแรงมาก ๆ หรือมีอาการปลายจมูกบาง ใกล้ทะลุ หรือทะลุออกมาแล้ว เนื้อเยื่อของคนไข้จะถูกทำลายและอ่อนแอมาก จึงต้องพักในเนื้อเยื่อแข็งแรงก่อนจึงจะเสริมจมูกใหม่ได้ครับ (ในเคสที่มีการฉีดซิลิโคนแทนการใส่ซิลิโคนแท่ง อาจจะต้องขูดเนื้อเยื่อที่เปื่อยออกด้วย)