งดอาหารก่อนผ่าตัด

ตอบคำถาม! ทำไมต้องงดอาหารก่อนผ่าตัด?

การงดน้ำและงดอาหารก่อนผ่าตัด เป็นหนึ่งในการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดที่คนไข้จะได้รับแจ้งเสมอเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมหน้าอก ดูดไขมัน หรือศัลยกรรมอื่น ๆ และเกิดคำถามตามมาว่าทำไมต้องงดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัด? มันช่วยอะไรได้บ้าง? ถ้าเราเผลอตัวไปกินในช่วงเวลาที่ต้องงดล่ะ จะอันตรายไหม? คนไข้บางคนก็ดื้อนะครับ ไม่ยอมทำตามที่หมอแนะนำ มีการกินกาแฟตอนเช้าก่อนผ่าตัด อันนี้อันตรายสุด ๆ เพราะถ้าไม่มีการแจ้งหมอก่อน จะทำให้การผ่าตัดเสี่ยงมากขึ้น และอาจอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลยครับ เพื่อให้คนไข้ทุกคนรู้ถึงอันตรายจากตรงนี้ วันนี้หมอเลยอยากอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้อ่านกันครับ – หมอวี ศัลยแพทย์ตกแต่งประจำ Amara Clinic

การดูดไขมัน การเติมไขมัน หรือการเสริมจมูกแบบ Close สามารถทำได้ทั้งการผ่าตัดแบบยาชา และวางยาสลบ แต่การผ่าตัดที่ใหญ่ขึ้นมาอีกระดับ เช่น การเสริมหน้าอก, ยกกระชับหน้าอก, ตัดหนังหน้าท้อง, เสริมจมูกแบบ Open หรือการผ่าตัดหน้าอกชาย จะต้องมีการวางยาสลบ หรือดมยาสลบเท่านั้นครับ

ส่วนใหญ่เคสที่จะต้องงดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัด แบบเคร่งครัดมาก ๆ และหมอให้ความสำคัญที่สุด คือเคสที่ผ่าตัดโดยการดมยาสลบ หรือวางยาสลบครับ เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าการใช้ยาสลบ จะทำให้ตัวคนไข้ไม่มีสติ ไม่รู้สึกตัว แต่น้อยคนมากที่จะรู้ว่าการวางยาสลบ จะทำให้ระบบป้องกันการสำลักในร่างกายหยุดทำงาน, หลอดลมเปิดค้างไว้ และกล้ามเนื้อที่หลอดอาหารหย่อนตัว เมื่อเรามีน้ำหรืออาหารค้างอยู่ในกระเพาะ อาหารอาจจะถูกตีขึ้นมา แล้วเกิดการสำลักขึ้น จากนั้นก็จะส่งผลทำให้ไปอุดกั้นทางเดินหายใจ, น้ำลงปอด, ปอดอักเสบ, ปอดติดเชื้อ หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้นั่นเองครับ

ในบางครั้ง ขณะที่เราใช้ชีวิตประจำวัน มีสติครบถ้วน เรายังเกิดอาการสำลักน้ำหรืออาหารได้เลยครับ ดังนั้น การที่จะป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดความอันตรายเหล่านี้ คือการงดน้ำและงดอาหารก่อนผ่าตัด ตามที่แพทย์ได้แจ้งไว้ครับ ทั้งนี้ จะมีความเสี่ยงอันตรายขณะผ่าตัดมากยิ่งขึ้น หากไม่ได้วางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์วิชาชีพ, เจ้าหน้าที่ในห้องผ่าตัดไม่มีความรู้ เรื่องการช่วยชีวิต, ไม่มีเครื่องมือช่วยชีวิตฉุกเฉิน หรือไม่ได้ใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน เป็นต้นครับ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

ใครที่อยากรู้จักความสำคัญของวิสัญญีแพทย์ ในห้องผ่าตัดให้มากขึ้น ต้องมาฟังคลิปนี้เลยครับ ซึ่งคุณหมอวิสัญญีแพทย์วิชาชีพ ได้มาอธิบายถึงความเสี่ยงของการใช้ยาสลบ, ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้, ความแตกต่างของการดมยาสลบ และฉีดยาสลบ, คลายข้อข้องใจว่าหากดมยาสลบไปแล้ว คนไข้จะมีปัญหาเรื่องทางเดินหายใจหรือไม่? และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการใช้ยาสลบครับ

ข้อดีของการงดน้ำ-งดอาหารก่อนผ่าตัด

  • ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการสำลัก
  • ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายถึงชีวิต
  • ลดภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัดลง
  • ช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น

งดน้ำ-งดอาหารก่อนผ่าตัดกี่ชั่วโมง?

โดยรวมแล้ว หากมีการวางยาสลบหมอจะห้ามไม่ให้กินอะไรเลย ตลอด 8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัดครับ ไม่ว่าจะเป็น น้ำ, ชา, กาแฟ, นม, มาม่า, ก๋วยเตี๋ยว อาหารทุกชนิด หรือเครื่องดื่มทุกชนิด เช่น หากมีนัดผ่าตัดพรุ่งนี้ตอน 10.00 น. ในวันนี้เราสามารถกินอาหารและน้ำได้ถึงตี 1 เท่านั้น ห้ามกินทุกอย่างในช่วง ตี 1 – 10 โมงเช้าครับ ส่วนเคสที่เป็นการผ่าตัดแบบใช้ยาชา (ดูดไขมัน เติมไขมัน) อาจจะไม่จำเป็นต้องงดอาหารก่อนผ่าตัดนานถึง 8 ชั่วโมงครับ แพทย์จะแนะนำให้งดตามรายละเอียดของการผ่าตัดเป็นเคส ๆ ไปครับ

สำหรับใครที่เผลอไปกินน้ำเปล่า ชา กาแฟ หรืออะไรก็ตามที่ต้องลงไปยังกระเพาะ ไม่ได้งดอาหารก่อนผ่าตัดตามที่แนะนำ ให้สารภาพกับหมอตรง ๆ นะครับ หรือแจ้งวิสัญญีแพทย์ก็ได้ครับ เพื่อให้หมอได้มีการวางแผนการผ่าตัดใหม่ และเพื่อความปลอดภัยของคนไข้ครับ ทั้งนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อคนไข้ไม่ยอมงดน้ำ งดอาหารก่อนผ่าตัดในช่วง 8 ชั่วโมงนั้น คือ การเลื่อนเวลาในการผ่าตัดออกไป (พิจารณาจากช่วงเวลาที่คนไข้กินครั้งล่าสุด), กระทบคิวการผ่าตัดของเคสอื่น ๆ หรือถ้าต้องเลื่อนวันผ่าตัด อาจจะต้องมีการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เนื่องจากทางคลินิกได้เตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องมือ และยาในห้องผ่าตัดไปแล้ว (ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก)

สำคัญมาก! อันตรายถึงแก่ชีวิต

หากคนไข้เผลอกินอาหาร น้ำ หรือสูบบุหรี่ในช่วงเวลาที่แพทย์ได้แจ้งไว้ ให้คนไข้เล่าความจริงกับแพทย์ทุกครั้งก่อนผ่าตัด เพราะถ้าหากคนไข้ไม่แจ้ง และแพทย์ไม่รู้ ก็จะไม่สามารถป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรณีที่รุนแรงมากที่สุด คือการที่คนไข้ถึงแก่ชีวิต เพราะไม่ปฎิบัติตามคำแนะนำ และเล่าความจริงให้แพทย์ทราบครับ

แนะนำการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

แนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดแบบทั่วไป นอกจากเรื่องของการงดน้ำและงดอาหารก่อนผ่าตัดครับ ซึ่งคำแนะนำเหล่านี้ ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกันนะครับ เพราะมันส่งผลกับอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังผ่าตัดได้ เช่น อาการคลื่นไส้, เวียนศีรษะ, อาการบวม, ระยะเวลาในการฟื้นตัว, ระยะเวลาที่แผลจะหายดี และที่สำคัญมาก ๆ คือช่วยให้วิสัญญีแพทย์ สังเกตอาการของคนไข้ในระหว่างผ่าตัดได้ด้วยครับ (การสังเกตใบหน้า หรือการสังเกตปลายนิ้วมือ เป็นต้น)

  • แจ้งประวัติการรักษา การแพ้ยา รวมไปถึงโรคประจำตัว ให้แพทย์ทราบก่อนผ่าตัด เพื่อให้แพทย์ผ่าตัด และวิสัญญีแพทย์ มีการวางแผนในการผ่าตัด วางแผนการใช้ยา และแนะนำการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดที่เหมาะสมในแต่ละเคสให้
  • งดยา วิตามิน และอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี, โสม, ยาแอสไพริน, น้ำมันปลา, เมลาโทนิน, เอไคเนเซีย, ยาที่มีสารสกัดของกระเทียม หรือแปะก๊วย เป็นต้น (ในบางเคสอาจจะทำให้เลือดออกมากกว่าปกติ, เลือดคั่งได้ง่าย รวมไปแผลหายช้ากว่าปกติได้) 
  • กะเวลาให้ดี และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพราะการพักผ่อนอย่างเพียพอจะช่วยลดความเครียด ความกังวล อาการปวดหัว ใจสั่น และความดันได้ครับ
  • ทำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อย เนื่องจากหลังการผ่าตัดบางชนิดจะต้องงดการอาบน้ำไปก่อนในช่วงแรก นอกจากนี้ คนไข้จะต้องล้างสีเล็บมือออก และตัดเล็บให้สั้น อย่างน้อย 1 นิ้ว เพื่อให้วิสัญญีแพทย์ ได้สังเกตระดับของออกซิเจนทางปลายนิ้ว
  • ไม่แต่งหน้า ไม่ทาปาก ไม่ทาครีมทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด เพราะในระหว่างที่ผ่าตัดวิสัญญีแพทย์จะมีการสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ผ่านทางปากและใบหน้าของคนไข้ด้วย นอกจากนี้ การแต่งหน้ายังทำให้การติดตั้งอุปกรณ์สำหรับดมยาสลบ เป็นไปอย่างยากลำบากอีกด้วย
  • ไม่สวมเครื่องประดับทุกชนิด ในกรณีนี้รวมถึงคอนแทคเลนส์ แว่นตา และฟันปลอมด้วยนะครับ เพราะเครื่องประดับบางชนิดมีผลต่อเครื่องมือในห้องผ่าตัด ส่วนคอนแทคเลนส์ไม่ควรใส่ เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉิน แพทย์จะได้มีการเช็คม่านตาอย่างรวดเร็ว และการถอดฟันปลอม จะช่วยป้องกันไม่ให้ฟันปลอมไปอุดกั้นทางเดินหายใจ หากเกิดอาการสำลักขึ้นมา (หลัก ๆ คือเพื่อความปลอดภัยครับ)
  • แต่งกายให้เหมาะสมกับการผ่าตัดครับ หมอจะแนะนำให้คนไข้สวมเสื้อผ้าสีเข้ม ๆ มา เพราะหลังการผ่าตัดอาจจะมีน้ำจากการดูดไขมันไหลออกมา หรือพวกเลือดไหลออกมาได้ครับ ส่วนเหตุผลที่ให้คนไข้สวมเสื้อแบบกระดุม หรือชุดที่สวมใส่-ถอดออกได้ง่าย เพราะหลังการผ่าตัดร่างกายของเราจะมีความเจ็บระบม หากสวมเสื้อผ้าที่ใส่ยาก อาจทำให้เกิดความลำบากมากขึ้นได้ครับ

ผ่าตัดอย่างปลอดภัยที่ Amara Clinic

Amara Clinic (เอมาร่าคลินิก) เป็นศูนย์การปรับรูปร่างเฉพาะทาง (ดูดไขมัน เติมไขมัน เสริมหน้าอก เสริมจมูก ผ่าตัดหนังหน้าท้อง ผ่าตัดยกกระชับ ผ่าตัดหน้าอก เสริมคาง เสริมหน้าผาก เสริมตาสองชั้น และอื่น ๆ ) มีทั้งศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง และอาจารย์สอนดูดไขมัน-เติมไขมัน ประจำประเทศไทย ถ้ากำลังมองหาว่าจะศัลยกรรมที่ไหนดี (ไม่ว่าจะเป็น เสริมหน้าอกที่ไหนดี? หรือดูดไขมันที่ไหนดี? หรือศัลยกรรมอื่น ๆ) ก็ต้องเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญอย่างเอมาร่าคลินิกเลยครับ

  • ผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
  • ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ มาตรฐานโรงพยาบาล
  • ทุกอย่างในห้องผ่าตัดผ่านการฆ่าเชื้อ
  • เครื่องมือผ่าตัดหลากหลาย เครื่องแท้ ได้มาตรฐาน
  • เครื่องมือที่เลือกใช้ เป็นเทคโนโลยีใหม่ ทันสมัยที่สุด
  • เครื่องมือช่วยชีวิตครบครัน ตามมาตรฐานโรงพยาบาล
  • มีห้องพักฟื้น VVIP และพยาบาลส่วนตัวคอยดูแล
  • บริการ After Care มีคุณภาพสูง และครบครัน
  • แพทย์มีเทคนิค Signature เฉพาะตัว
งดอาหารก่อนผ่าตัด

เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ยังเน้นการปรับรูปร่างให้สวยสมส่วน เหมาะกับคนไข้แต่ละเคสมากที่สุดอีกด้วย แน่นอนว่าเรามีวิสัญญีแพทย์วิชาชีพ สำหรับให้ยาสลบอย่างปลอดภัยทั้ง คอยดูแลตั้งแต่ก่อนการผ่าตัด ตลอดการผ่าตัด และไปจนกว่าคนไข้จะฟื้นขึ้นมาอย่างปลอดภัย 

  • วิสัญญีแพทย์ซักประวัติก่อนการผ่าตัด
  • วิสัญญีแพทย์เช็คความพร้อมก่อนผ่าตัด
  • วิสัญญีแพทย์เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
  • วิสัญญีแพทย์ 1 คน ดูแลคนไข้ 1 คน
  • วางแผนการให้ยาสลบ แบบเฉพาะเคส
  • ดูแลจนกว่าคนไข้จะฟื้นขึ้นมาอย่างปลอดภัย
  • มีทีมพยาบาลวิชาชีพ คอยเฝ้าระวังร่วมด้วย
งดอาหารก่อนผ่าตัด

รางวัลระดับประเทศ

เราเป็น Body-jet Trainging Center (สอนการดูดไขมันและเติมไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำประจำประเทศไทย) และเป็นคลินิกที่ดูดไขมันด้วยเครื่อง body-jet มากที่สุดในประเทศไทย ด้วยการได้รับรางวัล The Most Body-jet Users ที่ได้รับจากทาง Technical Biomed นอกจากนี้ เรายังมีความชำนาญด้านการปรับรูปร่างกระชับสัดส่วนโดยตรง ซึ่งเราเป็นคลินิกที่มีจำนวนเคส J Plasma เยอะที่สุดในเอเชีย ด้วยการได้รับรางวัล No. 1 in Asia of Procedures Done in 2020-2021

บทความที่เกี่ยวข้อง

เสริมจมูก กินก๋วยเตี๋ยวได้ไหม? หาคำตอบได้ที่นี่!

อ่านเพิ่มเติม

เสริมจมูก กินอะไรได้บ้าง? มาหาคำตอบได้ที่นี่!

อ่านเพิ่มเติม

อาหารหลังเสริมจมูก ต้องกินต้องงดอะไรบ้าง?

อ่านเพิ่มเติม

สรุป การงดอาหารก่อนผ่าตัด

          สรุปนะครับ ใครที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัดที่ต้องใช้ยาสลบ จะต้องมีการงดน้ำ งดอาหารก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 8 ชั่วโมง นอกจากนี้ คนไข้ยังควรเตรียมตัวเองให้พร้อมตามข้อปฎิบัติอื่น ๆ ที่หมอได้แนะนำไปด้วยนะครับ อย่างไรก็ตาม หากเตรียมตัวก่อนผ่าตัดมาดีแล้ว การดูแลหลังผ่าตัดห้ามพลาดเช่นกันนะครับ (คลิกอ่านวิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน) เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และมีผลข้างเคียงหลังการผ่าตัดน้อยที่สุด เราควรปฎิบัติตัวทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดให้ดีที่สุดครับ

ปรึกษาแพทย์ที่ Amara Clinic

ลงทะเบียนปรึกษา คลิกที่นี่
ติ
ดต่อสาขารัชโยธิน : 062-946-2397
ติดต่อสาขาราชพฤกษ์ : 062-556-6623
ติดต่อทาง LINE : @amarasurgery
กดที่ลิ้งค์นี้ได้เลย >> https://lin.ee/ssQqAGV

ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่ง

นพ. วีรกานต์ สถิตนิรามัย (หมอวี)
แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic Surgery)

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี


              บทความนี้ จัดทำขึ้นโดย Amara Clinic (เอมาร่า คลินิก) ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ คัดลอก ทำซ้ำ หรือเผยแพร่บทความนี้ในนามอื่น (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา, ข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนก็ตาม) โดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเจอจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย

    One thought on “ตอบคำถาม! ทำไมต้องงดอาหารก่อนผ่าตัด?

    ใส่ความเห็น

    อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *