“วิธีดูแลหลังเสริมหน้าอกเห็นมาเยอะแล้ว แต่ไม่ค่อยมีวิธีเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอกให้ดูเลย” หมอเชื่อว่าตอนนี้ มีคนกำลังคิดและสงสัยแบบนี้อยู่แน่ ๆ ครับ เพราะตอนที่หมอให้คำปรึกษากับคนไข้ มีคนไข้มาถามแบบนี้เหมือนกัน ว่า “ที่นี่มีคำแนะนำไหมคะ?” ซึ่งแน่นอนครับว่าหมอมีแจ้งสำหรับคนไข้ก่อนทำทุกเคสอยู่แล้ว ดังนั้นจากเหตุการณ์นี้ หมอเลยคิดว่ามีคนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่คนไข้หมอสงสัยเหมือนกัน หมอจึงมาเขียนอธิบายเพิ่มเติมแบบเจาะจง สำหรับคนที่ต้องการเสริมหน้าอกโดยเฉพาะ จะได้รู้กันให้ชัวร์ไปเลยว่าต้องเตรียมตัวก่อนผ่าตัดยังไงบ้าง จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาและวุ่นวายใจ หลังจากที่เสริมหน้าอกไปแล้วนะครับ – โดยหมอวี ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางที่ Amara Clinic
โดยทั่วไปแล้วนะครับ การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดศัลยกรรมส่วนใหญ่มักจะคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าอก, เสริมจมูก, ผ่าตัดหน้าอก, ตัดหนังหน้าท้อง หรือแม้แต่การดูดไขมันก็ตาม เพราะส่วนใหญ่จะมีการใช้ยาสลบ เพื่อระงับความเจ็บร่วมด้วยนั่นเองครับ โดยการวางยาสลบหรือดมยาสลบนั้น จะต้องมีการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเป็นอย่างดี มีการเจาะจงและเคร่งครัดกว่าการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแบบยาชาครับ
แต่บทความนี้ หมอจะขอเจาะจงไปที่การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยตรงนะครับ ทั้งนี้ ก็จะมีแยกย่อยไปตามลักษณะของการเตรียมตัวนะครับ เช่น เรื่องของค่าใช้จ่าย, ความสะดวกสบายหลังเสริมหน้าอก, การดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอก เพื่อให้อาการต่าง ๆ ดีขึ้นเร็ว ๆ , การเตรียมสภาพจิตใจให้พร้อมผ่าตัด และการเตรียมร่างกายให้พร้อมครับ เพราะสิ่งเหล่านี้ก็ส่งผลกับความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ได้พอตัวเลยครับ
เตรียมเงิน เผื่อค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
1. เตรียมค่าใช้จ่ายในการทำ After Care สำหรับคนที่รับบริการในคลินิกที่ไม่ได้แถม After Care ให้ เพราะหลังจากเสริมหน้าอกไปแล้ว คนไข้จะต้องมีการกินยาเพื่อลดอาการต่าง ๆ , การฉายแสงเพื่อลดอาการบวมช้ำของหน้าอก หรือการทำความสะอาดแผลต่าง ๆ (บางเคสอาจมีอาการเจ็บ ทำให้ไม่สามารถทำแผลเองได้) ทั้งนี้ ควรสอบถามแพ็กเกจเสริมหน้าอก และค่าใช้จ่ายให้เรียบร้อยก่อนตัดสินใจนะครับ เพื่อที่เราจะได้เตรียมเงินเผื่อไว้ถูก และจะได้ไม่ต้องมาเสียความรู้สึก ที่อยู่ ๆ ก็โดนเก็บเงินเพิ่มแบบไม่รู้ตัว
2. เตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับห้องพักฟื้นหลังเสริมหน้าอก เนื่องจากในบางเคสอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการทำนาน มีการเสียเลือด ร่างกายอ่อนแอ และอาจจะมีอาการแทรกซ้อนจากการใช้ยาสลบได้ จึงทำให้แพทย์อาจพิจารณาว่าควรนอนพักฟื้นที่คลินิกสักคืน (ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความต้องการของคนไข้) ดังนั้น หมอแนะนำให้สอบถามทางคลินิกเสริมหน้าอกไว้ก่อนด้วยครับ ว่ามีห้องพักฟื้นให้ไหม ถ้ามีห้องพักฟื้นแล้วราคาเท่าไหร่? รวมในโปรโมชั่นเสริมหน้าอกแล้วรึยัง? เพื่อให้เราได้รู้ล่วงหน้า และประเมินค่าใช้จ่ายว่าคุ้มค่าหรือไม่
3. เตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับซัพพอร์ตบรา บางคลินิกอาจจะมีซัพพอร์ตบราแถมให้ด้วย แต่คลินิกส่วนใหญ่ไม่มีครับ คนไข้จะต้องชำระค่าใช้จ่ายตรงนี้เพิ่มเติม ซึ่งซัพพอร์ตบราเป็นอะไรที่สำคัญมากครับ เพราะจะช่วยทำให้หน้าอกเข้าที่เร็ว ไม่เคลื่อนตัว หรือเกิดปัญหาซิลิโคนลอย (ซัพพอร์ตบราคนละอย่างกับสปอร์ตบรานะครับ ใช้แทนกันไม่ได้) ทั้งนี้ หลังจากเสริมหน้าอกเสร็จทันที จะมีการใช้ผ้าพันรอบหน้าอกก่อน หลังจากนั้นแพทย์จึงจะให้ใส่ซัพพอร์ตบราทีหลังครับ
เตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก
- ผู้ช่วย หรือคนดูแล เพราะหลังเสริมหน้าอกอาจจะมีอาการบาดเจ็บ ทำให้ขยับตัวได้ลำบาก การที่มีผู้ช่วยมาคอยอำนวยความสะดวกให้ ก็จะทำให้การใช้ชีวิตในช่วงพักฟื้นหลังเสริมหน้าอกเป็นไปอย่างราบรื่น
- อุปกรณ์ทำความสะอาดแผล สำหรับคนที่ไม่สะดวกเข้าไปทำแผลที่คลินิก เพราะต้องทำแผลทุกวันในช่วงแรก
- หมอนรองคอ หรือหมอนหนุนหลาย ๆ ใบ เพราะหลังจากเราเสริมหน้าอกไปแล้ว จะต้องนอนในท่านอนหลังเสริมอกที่ถูกต้องด้วย เพื่อให้อาการบวมลดลงเร็ว ๆ , เลือดไหลเวียนสะดวกขึ้น, ลุกขึ้นง่าย, ขยับตัวคล่องกว่า และไม่ต้องโดนหน้าอกกดทับ
เตรียมสิ่งที่ช่วยบรรเทาอาการ
- อาหารบำรุงร่างกาย อาทิ น้ำใบบัวบก, น้ำฟักทอง, ซุปสาหร่าย, ถั่วแดง และยาต่าง ๆ
- ยาก่อนและหลังเสริมหน้าอก เช่น ยาแก้อักเสบ, ยาฆ่าเชื้อ หรือยาแก้ปวด เป็นต้น
- เจลประคบเย็นหลังเสริมหน้าอก เพื่อให้เลือดหยุดไหล ลดอาการปวด และบวมช้ำลง
เตรียมจิตใจให้พร้อมเสริมหน้าอก
- ทำใจให้สบาย ไม่คิดมาก มีความมั่นใจ
- พูดคุยรายละเอียดกับแพทย์ให้เคลียร์ เพื่อลดความกังวลใจ
- เคลียร์งาน หรือธุระให้เรียบร้อยก่อนวันเสริมหน้าอก
เตรียมร่างกายให้พร้อมเสริมหน้าอก
- อาบน้ำและสระผมให้เรียบร้อย เพราะบางเคสอาจจะต้องงดอาบน้ำในช่วงแรก เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าแผล เนื่องจากน้ำจะทำให้แผลแห้งตัวช้าลง และเสี่ยงติดเชื้อด้วยครับ
- เช็คคิวเสริมหน้าอก ว่าตรงกับช่วงที่มีประจำเดือนหรือไม่ จริง ๆ แล้วสามารถเสริมหน้าอก ในช่วงที่มีประจำเดือนได้นะครับ แต่อาจจะมีความลำบาก และไม่สบายตัวมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นเอง ตรงนี้ก็จะขึ้นอยู่กับคนไข้นะครับว่าสะดวกแบบไหน
- คืนวันก่อนเสริมหน้าอก ให้เข้านอนเร็วขึ้น หรือนอนพักผ่อนให้เพียงพอ (แนะนำ 8 ชั่วโมง) เพราะถ้าคนไข้นอนแบบไม่เต็มอิ่ม จะส่งผลให้มีอาการเมายาสลบเพิ่มมากขึ้นได้ครับ บางคนอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้เลยก็มี
- งดอาหารเสริม งดวิตามิน หรือยาอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด หากไม่แน่ใจให้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่คลินิกว่า กำลังใช้ยาตัวไหนอยู่บ้าง จำเป็นต้องงดก่อนเสริมหน้าอกไหม และให้เริ่มงดเมื่อไหร่
- ก่อนผ่าตัดห้ามกินอะไร? คำตอบอยู่ในข้อนี้เลยครับ ก่อนเสริมหน้าอกต้องงดอาหารทุกชนิด ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพราะอาหารและน้ำที่อยู่ในกระเพาะ ยังไม่ถูกย่อยและยังไม่ได้ถูกขับออกไป อาจจะสำรอกขึ้นมา ทำให้เกิดอาการสำลักขณะวางยาสลบได้ ตรงนี้มีความอันตรายมาก ๆ เลยนะครับ (ถ้าเคสไหนเผลอกินก่อนมาเสริมหน้าอก ในช่วง 8 ชั่วโมง ให้แจ้งวิสัญญีแพทย์ และยอมรับการเลื่อนคิวผ่าตัดนะครับ ไม่งั้นอาจจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลย) ซึ่งอาหารที่ว่านั้น มีทั้งอาหารเหลว อาหารแข็ง น้ำเปล่า ชา กาแฟ แอลกอฮอล์ และบุหรี่ทุกชนิดด้วยครับ
- ไม่ต้องแต่งหน้า ทาครีม ทำเล็บ หรือสวมเครื่องประดับมานะครับ เพราะวิสัญญีแพทย์จะมีการสังเกตอาการของคนไข้ ผ่านใบหน้า และเล็บมือ (ถ้าทำเล็บมาแล้ว ให้ล้างออกอย่างน้อย 1 เล็บครับ) นอกจากนี้ การทาครีมและสวมเครื่องประดับ อาจจะทำให้มีการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ยากมากขึ้นด้วยครับ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- การงดอาหารก่อนผ่าตัด
- อาการหลังเสริมอก มีอะไรบ้าง?
เตรียมตัวก่อนผ่าตัดส่งผลอย่างไร?
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก มีความสำคัญไม่แพ้กับการดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอกเลยนะครับ เพราะมันส่งผลต่อสิ่งที่เกิดขึ้นหลังเสริมหน้าอกด้วย ไม่ว่าจะพวกภาวะแทรกซ้อน, อาการเวียนหัวคลื่นไส้ อยากอาเจียน, ความปลอดภัยของชีวิต, ระยะเวลาที่หน้าอกจะเข้าที่, อาการหลังเสริมหน้าอกที่พบ, ความบวมช้ำ และความสะดวกสบายหลังทำครับ (ในช่วงที่พักฟื้น จะมีความลำบากในการขยับร่างกาย หยิบจับสิ่งของ และการเดินทางต่าง ๆ หากเรามีการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดให้พร้อมเอาไว้ เราก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องเหล่านี้เลยครับ แถมยังได้ความสบายใจ และปลอดภัยยิ่งขึ้นอีก)
สิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเตรียมตัวก่อนผ่าตัดไม่ดี!
- อาการบวมช้ำ อาการเจ็บ ที่มากกว่าเคสปกติทั่วไป
- ความอันตราย จากการที่อาหารสำลักเข้าสู่ทางเดินหายใจ
- ความวิตกกังวล จากการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดที่ไม่พร้อม
- เสียเวลาในการเลื่อนคิวผ่าตัด และกระทบกับเคสอื่น ๆ
- อาจพบกับผลข้างเคียงหลังเสริมหน้าอกที่เยอะกว่าปกติ
- หากบางอย่างไม่พร้อม อาจเกิดความวุ่นวาย และลำบากได้
เลือกคลินิกเสริมหน้าอกยังไงดี?
วิธีเลือกคลินิกเสริมหน้าอกนั้น หมอมีมาแนะนำหลายข้อเลยครับ บางคนอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบ หรือเช็คคลินิกเสริมหน้าอกก่อนตัดสินใจทำ จึงทำให้เกิดปัญหามากมายหลังทำขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น ราคาไม่ตรงปก, ผลลัพธ์แย่ หน้าอกพัง, ไม่มีประกัน, ได้เงินแล้วจบ ไม่มีการดูแลหลังทำ, ไม่มีใครมา Follow-up เคส, ไม่ปลอดภัย, ติดเชื้อง่าย และอื่น ๆ อีกมากมายครับ โดยส่วนใหญ่คลินิกที่มักจะมีปัญหาแบบนี้ มักจะเป็นคลินิกที่เสริมหน้าอกราคาถูกมาก ๆ ถูกมากกว่าปกติ หรือใช้ราคาในการจูงใจลูกค้าครับ
ตัวอย่างของคลินิกเสริมหน้าอกที่ควรหลีกเลี่ยง
- มีข้อมูลให้น้อย บอกราคาไม่ชัดเจน
- แพทย์ไม่ใช่ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง
- เจ้าหน้าที่ไม่รู้ข้อมูลที่ถูกต้อง หรือไม่แม่นยำ
- ติดต่อยาก ไม่เต็มใจ ไม่ใส่ใจบริการลูกค้า
- ราคาวางยาสลบถูกกว่าปกติ (เนื่องจากการวางยาสลบที่ปลอดภัยต้องทำภายใต้การดูแลของวิสัญญีแพทย์ ดังนั้นจึงมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ราคาจึงอยู่ในระดับหลักหมื่น ทั้งนี้ราคาที่คิดขึ้นอยู่กับทางคลินิก โดยมีทั้งแบบคิดเป็นรายชั่วโมง และคิดแบบเหมา)
- แจ้งว่ามีแพทย์เชี่ยวชาญ แต่ไม่สามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้ (แพทย์ที่ทำการเสริมหน้าอก)
- ระบุว่ามีวิสัญญีแพทย์ แต่ไม่ให้ชื่อมาตรวจสอบ
- บอกว่าห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน แต่ไม่มีหลักฐานแสดง
- ไม่มี After Care อะไรให้เลย ทำให้คนไข้ต้องไปทำที่อื่น
คลินิกเสริมหน้าอกที่น่าเชื่อถือ จะต้องมีสิ่งนี้!
- ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง (Plastic Surgery)
- วิสัญญีแพทย์ สำหรับดมยาสลบ แบบ 1:1
- ตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้ (ทั้งแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดและวิสัญญีแพทย์)
- ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ และมีระบบครบครัน
- เครื่องมือฉุกเฉินครบ ตามมาตรฐานโรงพยาบาล
- ห้องพักฟื้นหลังเสริมหน้าอก และพยาบาลคอยดูแล
- การติดตามอาการหลังเสริมหน้าอกอย่างต่อเนื่อง
- เจ้าหน้าคอยดูแลทั้งก่อนและหลังอย่างเต็มใจ
- บริการ After Care ดูแลหลังเสริมหน้าอก
- การรับประกันผลลัพธ์ (หากมีปัญหายินดีช่วยแก้ไข)
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
สำหรับการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก ที่หมอได้แนะนำไปนี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ตามรายละเอียดและคำแนะนำของแพทย์ของแต่ละคลินิกนะครับ หากถึงวันเสริมหน้าอกแล้ว เรามีการลืมการเตรียมตัวข้อไหนไป หมอแนะนำให้แจ้งเจ้าหน้าที่ หรือแพทย์ก่อน เพราะทางคลินิกอาจจะช่วยเราแก้ไขปัญหานั้นได้ โดยที่เราไม่ต้องกังวลก่อนผ่าตัดครับ สุดท้ายนี้ ถ้าใครชอบบทความนี้ และอยากนำไปแชร์ให้เพื่อน ๆ คนอื่นรู้ด้วย หมอก็ยินดีเลยครับ ส่วนใครที่อยากเสริมหน้าอกกับศัลยแพทย์เฉพาะทางอย่างหมอ ที่ Amara Clinic สามารถสอบถามค่าใช้จ่าย โปรโมชั่น ดูรีวิวเสริมหน้าอก และสอบถามรายละเอียดอื่น ๆ กับเจ้าหน้าที่ได้ทาง LINE : @amaraclinic เลยครับ
ปรึกษาแพทย์ที่ Amara Clinic
ลงทะเบียนปรึกษา คลิกที่นี่
ติดต่อสาขารัชโยธิน : 062-946-2397
ติดต่อสาขาราชพฤกษ์ : 062-556-6623
ติดต่อทาง LINE : @amarasurgery
กดที่ลิ้งค์นี้ได้เลย >> https://lin.ee/ssQqAGV
ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่ง
นพ. วีรกานต์ สถิตนิรามัย (หมอวี)
แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic Surgery)
Thanks for sharing. I read many of your blog posts, cool, your blog is very good.
Kuratsune, H priligy amazon canada
Breast implants d buy priligy 30mg Physical exercise following bariatric surgery in women with morbid obesity Study protocol clinical trial SPIRIT compliant