สวัสดีครับ วันนี้หมอวีกลับมาพร้อมกับเรื่องเสริมจมูก ศัลยกรรมสุดฮิตที่ทำแค่จมูกหน้าก็เปลี่ยน แต่จะต้องเปลี่ยนแล้วดีและปลอดภัยด้วยนะครับ ซึ่งเทคนิคทำจมูกในปัจจุบันก็ก้าวหน้าไปมาก รวมไปถึงวัสดุที่ใช้เสริมจมูกด้วย จากสมัยก่อนมีเพียงแค่ซิลิโคนสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียวเป็นรูปทรงตัว L เสริมสันจมูกให้สูงและมีขาเพื่อเสริมตรงปลายจมูกให้ยาวและเชิด เมื่อนานวันเข้าซิลิโคนจะมีการดันตัวไหลลงมาที่หลายจมูก ทำให้เนื้อปลายจมูกบางและมีความเสี่ยงที่จมูกจะทะลุได้สูงมากครับ แต่ตอนนี้มีการใช้เทคนิคการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อจากคนไข้เอง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นได้
สำหรับเทคนิคเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อของคนไข้ที่นิยมนำมาแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับปลายจมูกที่เกิดหลังเสริมจมูกนั่นก็คือ “เสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู” หรือ “เสริมจมูกหลังหู” ที่หมอเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินได้ฟังกันมาบ้างแล้วนะครับ แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับทำจมูกด้วยเทคนิคนี้หรืออยากจะทำความรู้จักกันเพิ่มเติม วันนี้ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของการเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหูไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจ ได้ที่นี่เลยค่ะ
เทคนิคที่ใช้เสริมจมูก
สำหรับเทคนิคเสริมจมูก หมอจะขอแบ่งตามความแตกต่างของวิธีการเปิดแผลเสริมจมูกนะครับ โดยแบ่งออกหลัก ๆ 2 เทคนิค นั่นก็คือ การเสริมจมูกแบบปิด (Close Rhinoplasty) และการเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) โดยส่วนใหญ่แล้วหลายคนมักจะคุ้นเคยกับการเสริมจมูกแบบปิดมากกว่า ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว แต่ละเทคนิคก็มีความเหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนที่มีปัญหาแตกต่างกันออกไปครับ เดี๋ยวเราลองมาดูกันครับว่าแต่ละเทคนิคคืออะไร และเหมาะกับใครกันบ้าง

การเสริมจมูกแบบปิด
เสริมจมูกแบบ close (Close Rhinoplasty) เป็นเทคนิคเสริมจมูกที่เหมาะกับคนไข้ที่เสริมจมูกครั้งแรก มีพื้นฐานรูปทรงจมูกที่ดีอยู่บ้าง และไม่ได้มีปัญหาโครงสร้างอื่น ๆ เช่น ไม่มีปัญหาเนื้อจมูกบาง, ไม่มีฮัมพ์, จมูกยาวปกติ ไม่มีปัญหาจมูกสั้นหรือจมูกหมู ฯลฯ และเหมาะกับการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนอย่างเดียว หรือบางรายที่อยากรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียมหรือเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู และไม่มีปัญหาโครงสร้างอื่น ๆ นับว่าเป็นเทคนิคที่ไม่มีความยุ่งยากสลับซับซ้อนอะไรครับ
สำหรับการเปิดแผล หมอจะทำการเปิดแผลเล็ก ๆ ในรูจมูกข้างใดข้างหนึ่งประมาณ 1-2 ซม. หรืออาจเปิดทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน (Semi Open) จากนั้นสร้างช่องว่างบริเวณสันจมูก จึงใช้ซิลิโคนเสริมจมูกที่ได้เตรียมไว้แล้วมาวางในตำแหน่งที่เหมาะสม สุดท้ายจึงเย็บปิดแผล ส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการทำจมูกเทคนิคแบบปิดประมาณ 60-90 นาทีครับ
การเสริมจมูกแบบโอเพ่น
เสริมจมูกโอเพ่น (Open Rhinoplasty) เป็นการเสริมจมูกที่เหมาะสำหรับใช้ในการปรับโครงสร้างจมูกพร้อมกับการเสริมจมูกครับ ปัญหาโครงสร้างจมูกเดิม เช่น จมูกมีกระดูกสันนูน (ฮัมพ์สูง), จมูกสั้น, จมูกคดเอียง ฯลฯ รวมถึงยังนิยมใช้เทคนิคเสริมจมูกแบบโอเพ่นกับเคสที่ต้องการแก้จมูกอีกด้วย เนื่องจากต้องมีการเลาะพังผืดและนำซิลิโคนหรือวัสดุเสริมจมูกอื่น ๆ ออกมา
การเปิดแผลแบบโอเพ่น หมอจะทำการเปิดแผลที่ฐานจมูกทั้ง 2 ข้าง และทำการแยกเนื้อจมูกออกเพื่อให้สามารถปรับโครงสร้าง, เลาะพังผืด, เลาะสารเหลวต่าง ๆ ออก จากนั้นจึงทำการเสริมจมูกตามที่ได้วางแผนไว้ โดยวิธีเปิดแผลแบบโอเพ่นสามารถใช้วัสดุเสริมจมูกได้ทุกแบบ บางคนอาจจะใส่ซิลิโคนพร้อมรองปลายด้วยเนื้อเยื่อหรือกระดูกอ่อนของคนไข้เอง หรือเลือกเป็นเนื้อเยื่อเทียม หรือบางรายอาจใช้การเสริมจมูกเทคนิคไร้ซิลิโคน ซึ่งเป็นการเสริมสันจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงร่วมกับรองปลายก็สามารถทำได้ครับ สำหรับระยะเวลาในการเสริมจมูกแบบโอเพ่นจะค่อนข้างนานกว่าเสริมจมูกแบบ Close เพราะเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างซับซ้อนมากกว่า โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความยาก-ง่ายในแต่ละเคสครับ)
วัสดุที่ใช้เสริมจมูกมีอะไรบ้าง
อย่างที่หมอได้เกริ่นไปตอนต้นนะครับว่า ในปัจจุบันการศัลยกรรมทำจมูกมีมากกว่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนสำเร็จรูปครับ โดยมีการพัฒนาการใช้วัสดุเสริมจมูกมากมาย ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาที่มาจากการใช้ซิลิโคนเพียงอย่างเดียว วัสดุเสริมจมูกในปัจจุบันจะแบ่งออกเป็นวัสดุสังเคราะห์และวัสดุที่มาจากตัวคนไข้เองครับ ซึ่งศัลยแพทย์จะให้คำแนะนำก่อนเสริมจมูกว่า เราควรเลือกใช้วัสดุเสริมจมูกแบบไหนให้เหมาะสมและปลอดภัยมากที่สุด

วัสดุสังเคราะห์
- ซิลิโคน ซึ่งเป็นซิลิโคนเกรดที่ใช้ในทางการแพทย์ (Medical Grade) เท่านั้น มีทั้งแบบซิลิโคนสำเร็จรูปสามารถนำมาเหลาตกแต่งเพิ่มเติมได้ และแบบที่ศัลยแพทย์ต้องเหลาเองทั้งแท่งตามรูปทรงจมูกที่ดีไซน์ไว้แล้ว
- เนื้อเยื่อเทียม เป็นวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้น ซึ่งมีโครงสร้างเดียวกับเนื้อเยื่อธรรมชาติในมนุษย์ ส่วนใหญ่ใช้สำหรับรองปลายจมูก ใช้กรณีที่คนไข้ไม่ต้องการใช้เนื้อเยื่อหรือกระดูกอ่อนของตนเอง เพื่อป้องกันปลายจมูกทะลุในอนาคต
วัสดุที่มาจากตัวคนไข้เอง
- กระดูกอ่อนหลังใบหู ใช้ในการรองปลายจมูกในกรณีที่คนไข้มีปลายจมูกบาง เพื่อปรับแต่งปลายจมูกให้เป็นทรงหยดน้ำ และป้องกันจมูกทะลุจากการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนชิ้นเดียวทั้งแท่ง เป็นที่นิยมมากในการเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหูครับ
- กระดูกอ่อนแกนจมูก หรือ กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก จะใช้ในการยืดจมูกให้ยาวขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาจมูกสั้น และสามารถเติมปลายจมูกให้มีทรงหยดน้ำ เพิ่มความสวยละมุน ให้หน้าดูหวานขึ้น
- กระดูกอ่อนซี่โครง นิยมนำมาเสริมจมูกแบบไร้ซิลิโคน เพิ่มสันจมูกให้สวยคม แลดูเป็นธรรมชาติมากกว่าซิลิโคน ซึ่งกระดูกอ่อนซ๊่โครงจะที่มีความแข็งแรงมากกว่ากระดูกอ่อนส่วนอื่น ๆ
- เนื้อเยื่อก้นกบ ใช้ในการยืดและแต่งปลายจมูกให้ดูยาวขึ้น หนาขึ้น แก้ปัญหาเนื้อจมูกบาง เนื้อจมูกน้อย และช่วยป้องกันจมูกทะลุได้ดีอีกด้วย
เสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู คืออะไร
การเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู เป็นการนำกระดูกอ่อนที่เป็นแอ่งด้านในของใบหูในปริมาณไม่มาก (ประมาณ 2 ซม.) และศัลยแพทย์จะนำมาตกแต่งให้ได้รูปทรงที่พอเหมาะพอดีกับจมูกของคนไข้แต่ละราย จากนั้นนำมาเย็บตรงปลายติดกับซิลิโคน เพื่อคั่นไม่ให้ซิลิโคนสัมผัสและดันเนื้อปลายจมูกครับ


ขอบคุณภาพประกอบจาก : dreamplasticsurgery.com และ graceclinic.co.kr
เสริมจมูกหลังหูเป็นการเสริมให้ปลายจมูกยาวขึ้น มีความละมุนขึ้น สามารถแต่งเป็นปลายหยดน้ำได้สวยงามเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงยังช่วยเพิ่มความหนาของเนื้อปลายจมูก ป้องกันไม่ให้ซิลิโคนสัมผัสกับเนื้อปลายจมูกโดยตรง ดังนั้น การเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหูจะช่วยลดโอกาสที่ปลายจมูกจะบาง และป้องกันจมูกทะลุในระยะยาวครับ
เสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู เหมาะกับใครบ้าง
- คนที่มีเนื้อจมูกน้อย จมูกสั้น
- คนที่มีเนื้อปลายจมูกบางทั้งที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว และในกรณีที่เคยเสริมจมูกมาแล้วจนเนื้อปลายจมูกบาง
- คนที่อยากทำจมูกและแต่งปลายจมูกทรงหยดน้ำ
- คนที่อยากแก้จมูกให้ได้รูปทรงที่สวยงาม และป้องกันจมูกทะลุในอนาคต
ข้อดี-ข้อเสีย เสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู
การทำจมูกทุกเทคนิคและทุกชนิดของวัสดุย่อมมีทั้งข้อดีและข้อด้อยที่เราต้องศึกษาและทำความเข้าใจกันอย่างละเอียดถีถ้วนก่อนนะครับ เพราะแต่ละเทคนิคและวัสดุที่เลือกใช้นั้นเหมาะกับความต้องการที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์และความพึงพอใจมากที่สุดที่เราควรได้รับหลังทำจมูก
ข้อดีเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู
- กระดูกอ่อนเป็นเนื้อเยื่อของคนไข้เอง จึงมีความปลอดภัยต่อร่างกาย ไม่มีสิ่งแปลกปลอม ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง
- เพิ่มความหนาให้กับเนื้อปลายจมูก ลดโอกาสที่ปลายจมูกบาง ป้องกันจมูกทะลุได้ในอนาคต
- ช่วยยืดจมูกให้ยาวขึ้นได้ และตกแต่งปลายจมูกให้ดูสวยเป็นธรรมชาติได้
- เย็บซ่อนรอยแผลหลังหู ถ้าไม่สังเกตดี ๆ จะแทบไม่เห็นแแผลเป็นเลย
ข้อเสียเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู
- ต้องเปิดแผล 2 ตำแหน่ง คือ บริเวณที่เสริมจมูกหลังหูและบริเวณหลังใบหู จึงต้องมีการดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น
- ไม่สามารถเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหูอย่างเดียวได้ เนื่องจากบริเวณนี้มีปริมาณกระดูกอ่อนค่อนข้างน้อย โดยส่วนใหญ่แล้วจำเป็นต้องมีการเสริมจมูกหลังหูร่วมกับซิลิโคน
- ไม่สามารถใช้ยืดปลายจมูกได้มาก ๆ เพราะอาจเห็นขอบของกระดูกอ่อนหลังหูได้
ขั้นตอนเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู
การเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู แพทย์จะแนะนำให้เสริมจมูกแบบ Close ซึ่งเป็นการใช้ซิลิโคนเสริมจมูกบริเวณสันจมูกให้ดูสูงขึ้น เพิ่มความโด่งของจมูก ร่วมกับการใช้กระดูกอ่อนหลังหูรองปลายจมูก ซึ่งมีขั้นตอนเสริมจมูกหลังหู ดังนี้ครับ
- ฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณหลังใบหู เมื่อยาชาออกฤทธิ์แพทย์จะทำการเปิดแผลและนำกระดูกอ่อนที่แอ่งใบหูประมาณ1-2 ซม. และทำการตัดตกแต่งให้ได้รูปทรงที่ต้องการ
- เย็บปิดแผลหลังใบหูให้สวยงาม ด้วยการซ่อนแผลเพื่อป้องกันแผลเป็นที่อาจเห็นได้ชัด (เย็บผ้าก๊อซปิดแผลที่ด้านหน้าและหลังใบหู)
- ศัลแพทย์จะเปิดแผลที่รูจมูกด้านในข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้าง (แล้วแต่แพทย์พิจารณา) โดยเป็นเพียงการใช้ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น ซึ่งศัลยแพทย์จะเย็บกระดูกอ่อนหลังหูไว้ที่ปลายของซิลิโคน หรือวัสดุอื่น ๆ จากนั้นทำการเสริมจมูกหลังหู ท้ายสุดจึงเย็บแผลในรูจมูกด้านใน
- เสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหูแบบ Close ใช้เวลาประมาณ 60-90 นาที (ขึ้นอยู่กับความยาก-ง่ายในแต่ละเคส)
การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู

- หากมีโรคประจำตัว หรือรับประทานยาอยู่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบหรี่ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนเสริมจมูก
- งดรับประทานยาในกลุ่มแอสไพรินและไอบูโพรเฟน (เพราะมีผลต่อการไหลเวียนของเลือด อาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าหลังผ่าตัด)
- งดรับประทานอาหารเสริมและวิตามินประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนเสริมจมูก (เพราะวิตามินและอาหารเสริมบางชนิดมีผลทำให้เลือดหยุดไหลช้า รวมถึงอาจทำให้เกิดการบวมช้ำมากหลังผ่าตัด)
- อาบน้ำสระผมให้สะอาด เนื่องจากหลังเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู ต้องงดการสระผมในช่วงแรกจนกว่าจะตัดไหม
- สวมใส่เสื้อผ้าที่หลวม ใส่สบาย และถอดออกง่าย (เสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า)
- งดการแต่งหน้าและถอดคอนแทคเลนส์ในวันผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู

- ห้ามสระผม ห้ามให้แผลหลังหูโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม และล้างแผลเช้า-เย็น ตามคำแนะนำของศัลยแพทย์
- หลีกเลี่ยงการนอนทับหูข้างที่ผ่าตัด
- สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมบริเวณที่เสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู โดยให้ประคบที่หน้าผากและหน้าแก้มทั้ง 2 ข้าง ไม่ควรประคบลงบนจมูกโดยตรง
- นอนยกศีรษะสูง หรือใช้หมอนรองคอนอน หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำและนอนตะแคง
- ระวังไม่ให้แผลเสริมจมูกหลังหูโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม ใช้สำลีชุบน้ำสะอาดเช็ดรอบ ๆ แผล
- งดแต่งหน้าประมาณ 1 สัปดาห์
- งดใส่แว่นตาและงดออกกำลังกายหนัก ๆ หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดแรงกระแทกแรง ๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
- งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่หลังเสริมจมูกหลังหูประมาณ 1 เดือน
- รับประทานยาตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
บทความที่เกี่ยวข้อง
- หลังทำจมูก ซิลิโคนเคลื่อนได้รอบทิศทาง ต้องแก้ไหม? อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ซิลิโคนลอย ขยับได้ ต้องแก้จมูกหรือเปล่า?
- หลังเสริมจมูก เมื่อไหร่จะสวย อ่านเพิ่มเติมได้ที่ จมูกรัดแกนกี่เดือน
- ทำจมูกต้องลางานกี่วัน เมื่อไหร่แต่งหน้าได้ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ทำจมูกกี่วันหายบวม
- เสริมจมูกแต่เป็นสายกินเส้น! ต้องเช็ค อะไรกินได้ กินไม่ได้ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เสริมจมูกกินก๋วยเตี๋ยวได้ไหม
- ท่านอนสำคัญ! หลังเสริมจมูกไม่อยากพังต้องอ่าน! ทำจมูกกี่วันนอนตะแคงได้
Q&A เกี่ยวกับเสริมจมูกหลังหู
เสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหูเป็นการเสริมจมูกที่มีความปลอดภัย การนำกระดูกอ่อนหลังหูมาใช้นั้นก็ไม่ได้มีผลต่อโครงสร้างใบหู รวมไปถึงยังมีผลดีกับปลายจมูก ป้องกันจมูกทะลุ เหมาะกับคนที่มีปัญหาปลายจมูกบาง โดยหลังเสริมจมูกหลังหูไปแล้วกระดูกอ่อนหลังหูที่รองปลายจมูกจะผสานกับเนื้อจมูกเดิมจนกลายเป็นส่วนเดียวกันกับโครงสร้างจมูกเรา ไม่ทำให้ร่างกายเกิดอาการต่อต้านจนทำให้แพ้ เนื่องจากเป็นกระดูกอ่อนของคนไข้เอง ไร้สิ่งแปลกปลอม จึงมีความปลอดภัยสูงมากครับ
มีอยู่ 2 กรณีครับที่จะทำให้กระดูกอ่อนหลังหูฝ่อลงได้ นั่นคือ ความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์ เพราะถ้าเลือกทำจมูกกับหมอที่มีความรู้ด้านโครงสร้างและเทคนิคเสริมจมูกไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงกระดูกอ่อนได้ รวมไปถึงสถานที่ทำจมูกก็สำคัญนะครับ ถ้าทำในที่ที่ไม่มีความสะอาด ไม่ได้มาตรฐาน ก็ส่งผลให้จมูกที่ทำมาเกิดการอักเสบติดเชื้อจนทำให้กระดูกอ่อนหลังหูได้รับความเสียหายและกระดูกฝ่อจนต้องกลับมาแก้จมูกใหม่กันอีกรอบนะครับ ฉะนั้นแล้ว ก่อนตัดสินใจเสริมจมูก หมอจึงเน้นย้ำเสมอว่าให้เลือกจากความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์รวมถึงสถานที่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- จะเสริมจมูกใหม่หรือจะแก้จมูก ต้องดูดี ๆ ถ้าอยากทำจมูกครั้งเดียวจบ! อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เสริมจมูกที่ไหนดี
หลายคนคงสงสัยนะครับว่า การตัดกระดูกอ่อนหลังหูมาเสริมจมูกจะทำให้หูมีรูปทรงที่ผิดปกติหรือหูแหว่งหรือเปล่า? คำตอบคือ “ไม่แหว่ง ไม่ผิดรูป” ครับ เนื่องจากเป็นการใช้กระดูกอ่อนปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และหมอก็จะใช้เทคนิคเย็บแผลแบบซ่อนที่หลังใบหู ทำให้ไม่สามารถเห็นแผลเป็นได้ชัด รวมไปถึงบริเวณแอ่งใบหูที่นำกระดูกอ่อนมาใช้ไม่ใช่โครงสร้างหลักสำคัญของใบหู แต่ทั้งนี้ การเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหูเป็นเทคนิคที่ละเอียดอ่อนจึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์เป็นสิ่งสำคัญนะครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
และนี้ก็คือ เนื้อหาของเทคนิคเสริมจมูกด้วยวัสดุที่ได้มาจากตัวเราเอง อย่างการเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการทำจมูกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะช่วยเพิ่มความหนาของเนื้อปลายจมูกบาง ป้องกันจมูกทะลุ และยังช่วยตกแต่งปลายจมูกให้ยาวขึ้นและมีรูปทรงที่ดูอ่อนหวาน ตอบโจทย์คนที่อยากเสริมจมูกที่ต้องมาพร้อมกับความปลอดภัยในระยะยาวครับ
สำหรับใครที่สนใจเสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู สามารถส่งรูปเข้ามาให้หมอประเมินกันก่อนได้นะครับ หรือว่าอยากนัดวันเข้ามาปรึกษาที่ Amara Clinic ก็ได้เช่นกันที่ Line : @amarasurgery ใครที่ห่วงเรื่องการเดินทางมาที่คลินิกก็ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะเรามี 2 สาขา คือ ราชพฤกษ์และรัชโยธิน ใกล้ถนนใหญ่ มีรถไฟฟ้า มีรถเมล์หลายสายผ่าน สะดวกที่ไหนนัดวันได้เลยครับ
ปรึกษาแพทย์ที่ Amara Clinic
ลงทะเบียนปรึกษา คลิกที่นี่
ติดต่อสาขารัชโยธิน : 062-946-2397
ติดต่อสาขาราชพฤกษ์ : 062-556-6623
ติดต่อทาง LINE : @amarasurgery
กดที่ลิ้งค์นี้ได้เลย >> https://lin.ee/ssQqAGV
ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมตกแต่ง
นพ. วีรกานต์ สถิตนิรามัย (หมอวี)
แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic Surgery)