หายห่วง! ใครลดน้ำหนักแล้วย้วย บทความนี้มีทางแก้!

ปัญหาที่พบได้บ่อยของคนผอมที่เคยอ้วนมาก่อน มักจะเป็นความไม่กระชับเต่งตึงของผิวครับ ทั้งผิวย้วย ผิวหน่อยคล้อย ไม่กระชับ ผิวห้อย ฯลฯ ซึ่งการลดน้ำหนักแล้วย้วยนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน ใครที่มีการลดน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไป มีการออกกำลัยงงกายร่วมด้วย ปรับการกินอาหารได้อย่างเหมาะสม และลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีก็จะไม่มีปัญหาเช่นนี้ครับ เนื่องจากคนไข้ที่ Amara Clinic หลายคนมีปัญหาลดน้ำหนักแล้วย้วย หมอเลยอยากจะมาเล่าและอธิบายให้อ่านกันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และถ้าต้องการแก้ไข สามารถทำได้ด้วยวิธีใดบ้าง? เพื่อให้ผู้อ่านทราบว่าถึงแม้จะย้วยแค่ไหน มีปัญหาอะไร มันก็มีทางออกรออยู่ครับ จะได้ไม่เป็นกังวลมากจนเกินไป

ขอบคุณภาพจาก womenshealthmag

ในชั้นผิวหนังของเราทุกคนทุกบริเวณ มีคอลลาเจนและอีลาสตินอยู่ (หมอขอเรียกรวม ๆ ว่าคอลลาเจนเลยแล้วกันนะครับ) ซึ่งคอลลาเจนจะมีความยืดหยุ่นสูงมาก โดยความยืดหยุ่นนี้มาจากการที่เรารับประทานอาหารที่เหมาะสม ดื่มน้ำในปริมาณที่พอดี เติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอยู่เสมอ หลบเลี่ยงแสงแดด ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เจอมลภาวะฝุ่นควันน้อย หรือผิวไม่ถูกยืดขยายและหดตัวภายในระยะเวลาอันรวดเร็วเป็นต้น ยิ่งมีคอลลาเจนเยอะ ผิวยิ่งเด้งกระชับ จับขึ้นมาแล้วเด้งกลับทันที คล้ายกับหนังยาง

เหตุผลที่คุณลดน้ำหนักแล้วย้วยนั้น อาจเป็นได้ว่าคุณมีการลดน้ำหนักอย่างผิดวิธี มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก หรือลดน้ำหนักอย่างหักโหมจนเกินไปก็เป็นได้ ซึ่งการลดน้ำหนักแล้วย้วย มาจากการที่ร่างกายสูญเสียไขมันไปอย่างรวดเร็ว (ในบางเคสอาจรวมถึงกล้ามเนื้อด้วย)

โครงสร้างร่างกายของเราจะเรียงแบบนี้ครับ ชั้นผิวหนัง > ชั้นไขมัน > ชั้นกล้ามเนื้อ ตอนที่เราผอมแล้วอ้วนขึ้น ชั้นไขมันจะค่อย ๆ ถูกขยายอย่างช้า ๆ ทำให้ผิวหนังของเราไม่ได้เสียความยืดหยุ่นมากนัก แต่พอเราลดน้ำหนักไปอย่างรวดเร็ว ร่างกายมีการดึงไขมันไปใช้พร้อมกันเยอะ ๆ จนทำให้ไขมันหายไปรวดเดียว ตรงนี้จะทำให้ผิวหนังของเรามีสภาวะเสียศูนย์และหย่อนคล้อย ย้วยตัวลงมาได้ หรือกล่าวคือมันไม่มีที่ยึดเกาะ เนื่องจากไขมันส่วนเกินที่เคยผสานเซลล์และยึดเกาะกันในอดีตนั้นได้หายไปแล้ว

ถ้าถามว่าทำไมมันไม่ยึดเกาะกับกล้ามเนื้อล่ะ? คำตอบคือพวกเซลล์และเส้นเลือดมันยังไม่ถูกประสานกันครับ ถ้าอยากให้ผิวกลับไปเฟิร์มกระชับ และแก้ปัญหาลดน้ำหนักแล้วย้วยได้ ต้องทำให้ชั้นผิวมันแนบชิดและประสานกับกล้ามเนื่อนั่นเอง ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เดี๋ยวค่อยไปดูคำตอบกันในหัวข้อถัดไปนะครับ ส่วนหัวข้อนี่เรามาดูกันดีกว่าว่าการลดน้ำหนักแล้วย้วยหนัก หรือการลดน้ำหนักแบบผิดวิธีที่ว่านี้มันมีอะไรบ้าง?

การลดน้ำหนักแบบหักดิบ

สิ่งที่ดีที่สุดคือการทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทีละขั้นตอน ไม่หักโหม และไม่เปลี่ยนแปลงไปแบบ 100% ในทันที ตัวอย่างของการลดน้ำหนักแบบหักดิบคือ เดิมทีเรากินข้าววันละ 3 มื้อ กินอาหารเยอะมาก กินเนื้อสัตว์กินแป้งกินไขมันเยอะ แต่พอเราจะลดน้ำหนักปุ๊ป วันถัดมาเราก็ลดการกินเหลือแค่มื้อเดียว กินสลัด 1 ชามจบ แบบนี้ถือว่าเป็นการทำให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป น้ำหนักลดจริง แต่สุขภาพจะไม่ดี และทำให้เกิดปัญหาลดน้ำหนักแล้วผิวย้วยตามมาได้อีกด้วย

การเลิกกินแป้งไปเลย

บางคนมีความเข้าใจผิด ๆ นะครับ ว่าการกินแป้งมันทำให้อ้วน ความจริงมันขึ้นอยู่กับปริมาณที่เรากินเข้าไปมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานของร่างกายแหล่งหนึ่ง ควรกินในปริมาณหรือเหมาะสม หรือถ้าจะให้ดีหมอแนะนำให้เปลี่ยนเป็นการทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน หรือการทานแป้งแบบไม่ขัดสี เช่น ขนมปังโฮลวีท ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ฯลฯ

การกินยาลดน้ำหนัก

ยาลดน้ำหนักมีหลายแบบ ทั้งอันตรายมาก อันตรายน้อย และแบบปลอดภัยก็มีเช่นกัน เราไม่รู้หรอกครับว่าสารหรือตัวยาที่เค้าใส่เข้าไปมันมีอะไรบ้าง จึงทำให้บางคนมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ ซึ่งมันสามารถแยกประเภทได้เยอะมาก โดยยาลดน้ำหนักเหล่านี้ จะทำให้เราไม่รู้สึกหิว กระตุ้นการเผาผลาญ ทำให้ร่างกายอยากขยับอยู่ตลอดเวลา และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้ผอมได้จริง แต่เป็นการผอมแบบฮวบฮาบ แบบที่เราจะสูญเสียทั้งไขมันและกล้ามเนื้อ เผลอ ๆ สุขภาพร่างกายก็แย่ลงไปได้อีกด้วย นอกจากนี้ คนที่กินยาลดน้ำหนักแล้วย้วย อาจจะกลับไปอ้วนได้อีกครั้งในระยะเวลาไม่นาน

การแก้ไขปัญหาลดน้ำหนักแล้วย้วยสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับของความหย่อนคล้อยที่เกิดขึ้น คนที่ผิวย้วยไม่มากอาจจะรักษาโดยการสวมชุดกระชับ นวดกระชับสัดส่วนด้วยพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ และออกกำลังกายได้ครับ แต่ถ้าเริ่มย้วยแบบเห็นได้อย่างชัดเจน ก็จะต้องแก้ไขด้วยการศัลยกรรมครับ ซึ่งการศัลยกรรมที่หลาย ๆ คนรู้จักคือการผ่าตัดหนังหน้าท้องนั่นเอง นอกจากนี้ การดูดไขมันก็ไม่ได้ช่วยให้ผิวหนังมันกระชับขึ้นอย่างที่บางคนคิดกันนะครับ แต่ไม่ต้องกังวลไป นอกจากการผ่าตัดหนังหน้าท้องแล้ว หมอมีอีกหนึ่งวิธีที่ไม่ต้องเปิดแผลใหญ่มาแนะนำกัน เผื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้วยครับ

ผ่าตัดผิวหนังส่วนเกินออกไป 

การผ่าตัดผิวหนังส่วนเกินออกไป หรือการผ่าตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck, Abdomimoplasty) เป็นวิธีลดขนาดพื้นที่ผิวไปพร้อม ๆ กับไขมันที่อยู่ในบริเวณส่วนที่ย้วยยื่นออกมา เหมาะกับคนที่มีผิวย้วยในระดับรุนแรง จนไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้แล้ว และเหมาะกับคนที่ไม่ได้ต้องการอวดรูปร่างเผยผิวพรรณ เพียงแค่ต้องการให้ผิวหนังส่วนเกินตรงนี้ออกไปเท่านั้นครับ ข้อดีของการผ่าตัดหนังหน้าท้องคือพุงย้วยหายไปทันที เห็นผลชัดเจน ส่วนข้อเสียคือการที่การมีแผลขนาดใหญ่รอบหน้าท้อง และใช้เวลาในการพักฟื้นนาน นอกจากนี้ ในบางเคสอาจมีการผ่าตัดย้ายสะดือร่วมด้วย

ยกกระชับผิวด้วย J Plasma 

สำหรับคนที่ลดน้ำหนักแล้วย้วยไม่มากเท่าไหร่ ย้วยในระดับที่แพทย์ประเมินมาแล้วว่ายังสามารถแก้ไขได้ แนะนำให้ยกกระชับผิวย้วยหลังลดน้ำหนักด้วยเครื่อง J Plasma เลยครับ ตัวนี้เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการยกกระชับผิวโดยตรง โดยจะเป็นการเปิดแผลขนาดเล็กเพื่อสอดท่อพลังงานเข้าไป ทำให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนจากใต้ชั้นผิว และทำให้เส้นใยที่ทำหน้าที่ยึดผิว (FSN หรือ Fibroseptal Network) ให้ติดกันมันหดตัวลง ส่งผลให้ผิวที่เคยหย่อนคล้อยมันเรียบตึงขึ้นทันที เหมือนกับการดึงผ้าปูโต๊ะให้ตึงเลยล่ะครับ ที่สำคัญคือได้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการผ่าตัดหนังหน้าท้องถึง 80% เลยทีเดียว แถมไม่ต้องเปิดแผลใหญ่ และไม่ต้องพักฟื้นนานอีกด้วย

หลักการทำงานของ J Plasma จะเป็นนวัตกรรมที่ผสานเอาพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF) และก๊าซเฉื่อยที่มีความเย็น (Helium Plasma) เข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดเป็นพลังงานความร้อนที่สูงถึง 85 องศาเซลเซียส แล้วส่งผ่านท่อพลังงานไปยังตำแหน่งที่ต้องการยกกระชับอย่างเจาะจง เมื่อปล่อยความร้อนแล้ว ก๊าซเฉื่อยที่มีความเย็นจะถูกปล่อยออกมาต่อในทันที เพื่อให้ท่อพลังงานเย็นลงเหลือ 41 องศาเซลเซียสภายในเวลาอันเสี้ยววิ เป็นผลให้เนื้อเยื่อข้างเคียงไมาได้รับผลกระทบ ผิวไม่ไหม้ เลือดออกน้อย และการกระคุ้นคอลลาเจนจะดำเนินต่อไปนานถึง 6-8 เดือน

คนไข้ส่วนใหญ่ที่มีปัญหาลดน้ำหนักแล้วย้วย มักจะเข้ามาดูดไขมันพร้อมทำการยกกระชับผิวด้วย J Plasma ไปพร้อมกันครับ ไม่เพียงแต่คนที่มีปัญหาผิวย้วยเพราะลดน้ำหนักเท่านั้น คนที่ผิวย้วยเพราะสาเหตุอื่น ๆ อย่าง อายุเยอะ หรือคุณแม่หลังคลอด ก็สามารถเลือกกระชับผิวด้วย J Plasma แทนการผ่าตัดหนังหน้าท้องได้ครับ