ถุงใต้ตาเกิดจากอะไรและกำจัดอย่างไร?

สำหรับคนที่รู้สึกว่าตัวเองโชคไม่ดีอย่างคนอื่น เพราะว่ามีถุงใต้ตาบวมอันดำคล้ำ แบ่งเป็นชั้น ๆ หรือบวมตุ่ยมาก ๆ แล้วรู้สึกไม่มั่นใจ จนต้องหาหนทางในการกำจัดถุงใต้ตาที่น่ากังวลใจนี้ออกไป ในวันนี้หมอวี (ศัลยแพทย์ตกแต่ง (Plastic Surgery) ประจำ Amara Clinic) จะมาอธิบายข้อมูลเหล่านี้ให้ผู้อ่านทราบกันครับ ว่าถุงใต้ตาเกิดจากอะไร? มีกี่ประเภท? และเราสามารถกำจัดถุงใต้ตาด้วยวิธีไหนได้บ้าง ต้องผ่าตัดถุงใต้ตาอย่างเดียวไหมหรือว่าใช้วิธีอื่นก็ได้?

มาค่อย ๆ อ่านบทความ “ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร? มีทางไหนกำจัดได้บ้าง?” กันอย่างใจเย็นนะครับทุกคน วันนี้หมอก็เตรียมสิ่งที่หลาย ๆ คนอยากรู้มาให้อ่านกันเพียบเลย หมอขอเริ่มจากการอธิบายสั้น ๆ ว่าถุงใต้ตาเกิดจากอะไร แล้วค่อยไปที่วิธีการรักษากันนะครับ

ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร? ถุงใต้ตาเกิดได้จากหลาย ๆ อย่างเลยครับ เช่น ไขมันสะสมอยู่ใต้เปลือกตาล่าง, สภาพผิวที่หย่อนคล้อย, ริ้วรอยของอายุที่เพิ่มขึ้น, กล้ามเนื้อเปลือกตาหย่อนคล้อย, ระบบต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ, การร้องไห้บ่อย ๆ ร้องไห้นาน ๆ , การกินอาหารที่มีโซเดียมสูง, การเป็นโรคภูมิแพ้, การอดหลับอดนอน และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเราจะแบ่งประเภทของถุงใต้ตา ออกเป็นสองประเภทนะครับ คือถุงใต้ตาแท้และถุงใต้ตาเทียมนั่นเอง

ถ้าพูดถึงใต้ตาแท้ ๆ จะไม่เชิงว่าเป็นถุงใต้ตาที่เรารู้จักกันนะครับ (คนส่วนใหญ่ไม่รู้ และคิดว่ามีแค่ถุงเดียวที่ใต้ตา) แต่จริง ๆ แล้ว ถุงใต้ตาแท้ ๆ ของเราจะมีอยู่ 5 จุดด้วยกัน คือ 2 จุดแรกจะเป็นถุงที่อยู่บริเวณเหนือเปลือกตาด้านบน และอีก 3 ถุง จะอยู่ใต้เปลือกตาด้านล่างครับ ซึ่งถุงที่มักจะทำให้เกิดเป็นปัญหาตาบวมเป่งดูไม่น่ามองก็คือถุงใต้ตาที่อยู่ตรงกลาง และถุงใต้ตาที่อยู่ด้านในครับ

วิธีลดถุงใต้ตาแท้มีอะไรบ้าง?

1.การนวดสลายถุงใต้ตาด้วย RF

การใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency) จะช่วยสลายไขมันสะสมที่บริเวณใต้ตาลงอย่างอ่อนโยน พร้อมกับปรับสภาพผิวให้มีความกระชับเต่งตึงมากขึ้น แต่จะต้องอาศัยเครื่องนวด RF ที่ได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพ และมีหัวนวดบริเวณพื้นที่เล็ก ๆ อย่างดวงตาโดยเฉพาะ เนื่องจากบริเวณนี้มีความอ่อนโยนมาก ทั้งนี้ ปัญหาถุงใต้ตาอาจจะไม่ได้หายขาด หรือได้ผลชัดเท่าที่ควรนัก จึงไม่เหมาะคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาค่อนข้างมาก

2. การฉีดแฟตสลายถุงใต้ตา

หมอคิดว่าหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักการฉีดแฟต ฉีดเมโสแฟต หรือการฉีดลดไขมันเฉพาะจุดกันมาบ้างนะครับ ในสมัยก่อนก็มีการฉีดลดถุงใต้ตาเช่นกัน จนกระทั่งเกิดเคสที่ส่งผลให้เกิดอาการตาบอดขึ้น เลยทำให้วิธีนี้แทบไม่ได้ถูกนำมาใช้สำหรับกำจัดถุงใต้ตาแล้วในปัจจุบัน (เมโสแฟตนั้น แต่ละคลินิกจะมีสูตรในการผสมตัวยาต่าง ๆ ไม่เหมือนกันครับ อีกทั้งตรงบริเวณใต้ตามันอยู่ใกล้กับตาเรามาก ๆ หากแพทย์ไม่ได้เชี่ยวชาญจริง ๆ ก็อาจจะเกิดปัญหาเช่นนี้ได้)

3.การฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มถุงใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องลึกหรือช่วยให้ถุงใต้ตาของเราเต่งตึงขึ้นนั้น เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมติด Top 3 เลยล่ะครับ (ผ่าตัดถุงใต้ตา, ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และฉีดไขมันใต้ตา) ซึ่งแพทย์จะใช้สารเติมเต็ม (ฟิลเลอร์) เข้าไปแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ หากใช้เป็นฟิลเลอร์แท้จะสามารถสลายได้ ไม่เกิดอาการแพ้ และไม่เป็นอันตรายใด ๆ แต่ถ้าใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฉีดกับหมอกระเป๋า ก็จะปัญหาตามมาเยอะแน่นอนครับ นอกจากนี้ การเติมซ้ำเข้าไปบ่อย ๆ ก็อาจจะส่งผลให้ถุงใต้ตาค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น และมีความหย่อนคล้อยได้มากกว่าเดิม เมื่ออายุเพิ่มขึ้นได้ครับ

5.การผ่าตัดถุงใต้ตา

สำหรับคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาเยอะ ๆ อย่างคนที่มีอายุแล้ว ถุงใต้ตาจะใหญ่ ๆ หน่อย หรือคนที่มีถุงใต้ตาเป็นชั้น ๆ ไม่สวยงาม แนะนำให้ผ่าตัดถุงใต้ตาเลยครับ เพราะการผ่าตัดถุงใต้ตานับว่าเป็นวิธีที่เห็นผลได้ชัดเจนมากที่สุด อีกทั้งยังเห็นผลได้อย่างถาวรอีกด้วยครับ สำหรับขั้นตอนในการผ่าตัดถุงใต้ตานั้น หมอก็จะมีการเปิดแผลด้านในเปลือกตาด้านล่าง แล้วก็ตัดไขมันภายในถุงใต้ตาออกมา พร้อม ๆ ไปกับการจัดเรียงวางเซลล์ไขมันใหม่ เมื่อได้ใต้ดวงตาที่ต้องการแล้ว หมอก็จะเย็บปิดแผลด้านในครับ คล้าย ๆ กับการซ่อนแผลไปในตัวเลย

ถุงใต้ตาเทียม หรือเราเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าถุงใต้ตาที่เกิดจากพฤติกรรมของเรานั่นเอง ถ้าเราทำพฤติกรรมบางอย่างที่กระทบต่อบริเวณใต้ตา  ก็จะเพิ่มโอกาสในการเกิดถุงใต้ตาแบบชั่วครั้งชั่วคราวขึ้นได้ครับ อาทิ การร้องไห้ก่อนนอน, ร้องไห้หนักมาก, ขยี้ตาเยอะ ๆ , อดหลับอดนอน, ใช้สายตาเยอะ, กินอาหารที่มีโซเดียมสูง อย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือรวมไปถึงความเครียดได้ด้วยเช่นกันครับ สำหรับใครที่อดหลับอดนอนบ่อย ๆ แล้วสงสัยว่าถุงใต้ตาเกิดจากอะไร? ก็คงจะทราบแล้วนะครับว่าพฤติกรรมของเรานี่แหละคือคำตอบ!

สิ่งที่คล้ายกับถุงใต้ตาแต่ไม่ใช่!?

สำหรับบางคนอาจจะเป็นคนที่มีขอบตาดำคล้ำ อาจจะคิดว่าอันนี้เป็นถุงใต้ตารึเปล่า? จริง ๆ แล้วไม่ใช่นะครับ การที่ใต้ตาดำคล้ำดูช้ำ ๆ เกิดจากการที่เส้นเลือดดำขยายตัวขึ้นมา ประกอบกับผิวใต้ดวงตาที่ค่อนข้างบาง อาจจะต้องพบแพทย์เพื่อดูว่าสาเหตุที่มาเกิดจากอะไร ถ้านอนน้อยก็ควรจะพักผ่อนเยอะขึ้น หรือเป็นคนที่ผิวรอบดวงตาแห้งอาจจะต้องเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นต้นครับ

อีกกรณีนึงคือการมีดอลลี่อาย (Dolly Eye) หรือกล้ามเนื้อที่ขอบตาล่างหนาครับ บางคนอาจจะชอบมากจนถึงขั้นไปฉีดไปเติมให้ชัดขึ้นมาเลยทีเดียว แบบอินเทรนด์ ให้มีใบหน้าสวย ๆ อย่างสาวเกาหลี แต่ทั้งนี้ ถ้าเรามีดอลลี่อายที่ใหญ่เกินไปก็อาจจะดูไม่สวยงามได้ครับ